เมื่อเวลา 18.00 น .วันที่ ( 27 ก.พ.65 ) ร.ต.อ บรรเจิด จองพิทักษ์พงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าเรือ จ.พระนครพระนครศรีอยุธยา
รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกันจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายอาการสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท่าเรือเหตุเกิด บริเวณ ภายในลานจอดรถของโรงแรมแห่งหนึ่ง เขตเทศบาลท่าเรือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรายงาน พ.ต.อ ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ ผู้บังคับบัญชารับทราบ แล้วเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยารวมใจจุดท่าเรือ
ที่เกิดเหตุ พบกองเลือดและรอยเท้าเปื้อนเลือดจำนวนมากที่บริเวณพื้นปูนลานจอดรถ และ ปลอกกระสุน ขนาด 9 มม.จำนวน 8 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลท่าเรือ เป็นหญิง 2 ราย แล้วเสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลท่าเรือ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนางสุขสม มีเดช อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159/6 หมู่บ้าน ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรียุธยา ซึ่งเป็นแม่บ้านโรงแรม ถูกยิงบริเวณหน้าอก และบริเวณแขนจำนวน 5 นัด ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายคือนางสุรีรัตน์ นิ่มแสวงกุล อายุ 47 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณนิ้วชี้ข้างขวา นิ้วก้อยข้างซ้าย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายรักษา (อั๋น) โอสถเสน อายุ 62 ปี สามีของนางสุรีรัตน์ นิ่มแสวงกุล ผู้บาดเจ็บ ตอนนี้อยู่ระหว่างหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในซอย บัวงาม บ้านเลขที่ 12 หมู่ 6 ต.จำปา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ห่างจากจุดเกิดเหตุ 3 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ. ท่าเรือ ร่วมกับชุดสืบสวน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าปิดล้อมเพื่อต้องการเกลี้ยกล่อม ให้นายอั๋น มอบตัวแต่ต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา ซึ่งใช้เวลาเกลี่ยมกล่อมอยู่นาน หลายชั่วโมงแต่ยังไม่เป็นผล แต่นายอั๋นผู้ก่อเหตุได้ประสานผ่านทาง พ.ต.อ ธีรวุฒิ แสงมณี ผกก.สภ.ทาเรือ ว่าจะขอมอบตัว แต่อยู่ระหว่างรอลูกชายเดินทางมาจากกรุงเทพฯ ต่อมาเมื่อเวลา 21.30 น ลูกชายได้เดินทางมาที่บ้านและได้เกลี้ยงกล่อมจนพ่อของตนเองยอมมามอบตัวโดยดีจากนั้นก็ควบคุมตัวไปที่ สภ.ท่าเรือ พร้อมอาวุธปืน
นางสาวยุวดี จรินทร์พันธุ์ อายุ 34 ปี หลานสาว เล่าให้ฟังว่านายอั๋น ปกติจะพักอยู่ใน ซอยท่าแดง ต.จำปา อ.ท่าเรือ ซึ่งอยู่ถัดจากบ้านตนเองไปไม่ไกล แต่วันนี้ได้มาที่บ้านของตนเองตั้งแต่ 11:00 น และนั่งกินเบียร์จนเมาพร้อมบ่นว่าเบื่อ ไม่อยากอยู่ ตนเองก็ได้แต่ปลอบใจแต่ก็รู้ว่าลุงเครียดเรื่องป้าน้ำ เพราะได้แยกทางกันเป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปีแต่ลุงยังทำใจไม่ได้และเก็บกดมาตลอด แต่ลุงก็ไม่ได้พูดให้ฟังหรือทำอะไรให้ช่วยคิดว่าจะไปทำร้ายป้าน้ำ จนกระทั่งวันนี้ได้เดินทางออกจากบ้านไปเมื่อช่วงเวลาประมาณ 17:00 น และกลับเข้ามาอีกรอบหนึ่งพร้อมบอกว่าตนเอง ใช้ก่อเหตุ ยิง ป้าน้ำมาและก็มีป้าติ๋มถูกยิงไปด้วยตนเอง จึงรู้สึก ตกใจมาก รีบออกจากบ้านมาประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลัวว่านาย อั๋น จะคิดสั้นฆ่าตัวตาย
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลท่าเรือ โดยบรรยากาศ เป็นด้วยความโศกเศร้ามีบรรดาญาติและแม่ของผู้เสียชีวิตเดินทาง ที่โรงพยาบาล สอบถามแม่ของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองมีลูกสาว 7 คนผู้เสียชีวิตเป็นคนโตและทำงานเป็นแม่บ้าน อยู่ในโรงแรมที่เกิดเหตุ เมื่อช่วงเย็นหลังเลิกงานได้มานั่งเล่นอยู่บริเวณลานออกกำลังกายหน้าโรงแรม โดยมีนางสาวสุรีรัตน์ นิ่มแสวงกุล อายุ 47 ปี คนเจ็บซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกันได้มาออกกำลังกาย หลังจากนั้นก็มีคนร้ายมาบุกยิงจนทำให้ลูกสาวของตนเองได้รับบาดเจ็บและมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนเรื่องอะไรนั้นตนไม่ทราบสาเหตุ
ทางด้าน นางสาว สุรีรัตน์ นิ่มแสวงกุล อายุ 47 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณฝ่ามือทั้งสองข้าง เล่าว่า ขณะเกิดเหตุนั้นตนเองได้มาเต้น ออกกำลังกายทุกเย็น โดยผู้ตาย ทำงานที่เดียวกับตนเอง และ นาย อั้น อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นอดีตแฟนเก่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดอยู่ตรงบริเวณลานออกกำลังกาย จากนั้นก็เข้ามาพูดต่อว่าตนว่าทำไมไม่คุยด้วย ตนเองจึงเดินหลบ ไม่คิดว่านายอั้นจะนำปืนติดตัวมา จากนั้นก็กราดยิงตนเอง รีบวิ่งหนี ส่วนผู้ตายนั้นนั่งอยู่ ก็ถูกยิงไปหลายนัด จากนั้นนายอั้นก็ขึ่รถจยยหลบหนี และ มีเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุจึงนำตนเองส่งโรงพยาบาลท่าเรือ แต่ผู้ตายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต ส่วนสาเหตุนั้นตนเองเลิกกับสามีเก่าคนนี้มาได้ร่วมปีแล้ว และ ไม่เคยติดต่อกันแต่ยังถูกตามรังควานและราวี โดยก่อนหน้าเคยถูกข่มขู่ จะฆ่าให้ถึงชีวิต และนึกไม่ถึงว่าจะมาก่อเหตุดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ ธีรวุฒ แสงมณี ผกก.สภ.ท่าเรือ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้นายอั้นผู้ก่อเหตุ ได้มีปัญหากับอดีตภรรยา และ เคยมาปรึกษาตนเอง ให้ไปเคลียร์กับภรรยาแต่เนื่องจากอดีตภรรยาตั้งใจแล้วว่าจะไม่กลับไปคืนดี จนผ่านไปสักระยะหนึ่งก็ทราบว่าผู้ก่อเหตุก็ยังไปตามราวีอดีตภรรยา จนกระทั่งมาก่อเหตุ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แล้วกลับไปหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลานสาว จนกระทั่ง ตนเองได้มีเบอร์โทรศัพท์ของผู้ต้องหาอยู่แล้ว จึงได้โทรไปประสานเพื่อเกลี่ยกล่อมซึ่งผู้ต้องหาก็ยินยอมที่จะมอบตัวแต่ต้องรอลูกชายที่มาจากกรุงเทพฯ และ ชลบุรีก่อนถึงจะยอมมอบตัว ส่วนสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเนื่องจาก ผู้ก่อเหตุมีความคับแค้นใจ ในตัวอดีตภรรยา คิดว่าตัวภรรยามีชายอื่น ส่วนผู้ตายนั้นก็กรีดกันและยุแยงให้อดีตภรรยาไม่กลับมาคืนดี จึงเป็นมูลเหตุในการลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามจะให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนหาสาเหตุและมูลเหตุในการก่อเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้ต่อไป
สุรัตน์ ชัยกุลเทวินทร จ.พระนครศรีอยุธยา