เมื่อวันที่ (31 มี.ค.67) พ.ต.ท.หญิง ญาณิสรณ์ ประสงค์ รองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดพังงา พร้อม พ.ต.อ.เจษฎา จันทร์พุ่ม ผกก.สภ.ตะกั่วป่า พ.ต.ท.สมนึก เพ็ญทอง สวป.สภ.ตะกั่วป่า ร.ตท.หญิง ธิษตยา เบ็ญจรูญ พนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า นาณัฏฐพงศ์ เพ็ชรทอง ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอตะกั่วป่า และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ได้ลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุบริเวณบ้านเลขที่ 10/2 ม.7 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุสลดลูกชาย นายชากรี ราชานา อายุ 41 ปี ได้ใช้มีดพร้าฟันนางนับส้า ราชานา อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นแม่บังเกิดเกล้า จนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ภายในบ้าน
โดยเมื่อคืนวันที่ 30 มีนาคม 2567เวลา 20.00 น. นายชากรี ราชานา ผู้ก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ซูซุกิ สีแดง หมายเลขทะเบียน กงย 930 พังงา รีบออกจากบ้านไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลโคกเคียน ตะโกนร้องเสียงดังให้ตำรวจที่ป้อมฯเสียงดัง ว่า ได้ฆ่าคนตายแล้ว ต่อจากนั้น นายชากรี ราชานา ได้ขับรถจักรยานยนต์ คันดังกล่าว มามอบตัวที่ สภ.ตะกั่วป่า ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า ได้รับแจ้ง มีเหตุทำร้ายร่างกาย ที่บ้านเลขที่ 10/2 ม.7 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ทราบว่า คนถูกทำร้าย คือ นางนับส้า ราชานา อายุ 74 ปี ถูกฟันด้วยมีดพร้า และ มูลนิธิได้นำตัวส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่าแล้ว ทราบจาก นายนิคม ราชานา ซึ่งเป็นลูกชาย ของ นางนับส้าฯ ว่า คนทีใช้มีดพร้า ฟัน นางนับส้าฯ คือ นายชากรี ราชานา ลูกชายของนางนับส้าฯ และเป็นน้องชายของตน โดยนายนิคมฯ ได้ยินเสียงนางนับส้า หวีดร้องหลายครั้ง จึงเดินเข้าไปดูภายในบ้าน เห็นนางนับส้า ถูกฟันบริเวณใบหน้า ,คอ นอนอยู่มีเลือดเต็มตัว โดยมีนายชากรีฯ ยืนถือมีดพร้าเปื้อนเลือดอยู่ และ ถือมีดพร้า เดินออกไปจากบ้านไป จึงได้ไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า พบว่านางนับส้าฯ ถูกฟัน เป็นแผลฉกรรจ์ บริเวณ ใบหน้า ลำคอ และ ด้านหลัง จำนวนหลายแผล และได้เสียชีวิตที่ โรงพยาบาลตะกั่วป่า
จากการสอบถามเบื้องต้น นายชากรี ราชานา รับสารภาพว่าได้ใช้มีดพร้า เป็นอาวุธฟัน นางนับส้าฯ ซึ่งเป็นแม่จริง สาเหตุจาก นางนับสฯ ซึ่งเป็นแม่ ไปพูดบอกกับชาวบ้านว่า ตนมีเพศสัมพันธ์ กับแม่ ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนจึงโกรธแค้น และใช้มีดพร้า ฟัน แม่ไป ประมาณ 4 ครั้ง หลังก่อเหตุ ได้ทิ้งมีดพร้า ไว้ข้างถนนหน้าบ้าน จึงได้นำตัวนายชากรีฯ ไปตรวจสอบชี้จุดที่นายชากรีฯ ทิ้งมีดพร้า พบมีดพร้า ซึ่งใช้ก่อเหตุ มีร่องรอยคราบเลือดติดอยู่ วางอยู่บริเวณพงหญ้าข้างถนน บริเวณหน้าบ้านเกิดเหตุ จึงยึดไว้เป็นของกลาง
นายอิสมาแอน เลิศประธาน. ม.7โคกเคียน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 20:00 น.พี่ชายผู้ชายได้เดินทางมาแจ้งว่าน้องชายได้ทำร้ายแม่ ตนเองจึงได้เดินทางไปดูที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า พบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บนอนจมกองเลือดทางเจ้าหน้าที่ตอบโต้ภัยพิบัติได้ช่วยกันปั๊มหัวใจพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้าให้การช่วยเหลือ สาเหตุเบื้องต้นหน้าเกิดจากอาการหลอน โดยหลังจากเกิดเหตุทางผู้ก่อเหตุก็ได้เดินทางออกจากบ้านไปที่ป้อมตำรวจซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไม่มากและหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้ขับรถไปยังสถานีตำรวจ สภ. ตะกั่วป่า โดยทางตำรวจได้ล็อคตัวเอาไว้ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุก็ไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้แต่ทราบว่าเคยติดคุกคดีเมาแล้วขับ ซึ่งผู้ก่อเหตุมีอาชีพรับจ้างทั่วไป
ทางด้านนายดุสิต เดชหวัง หัวหน้ากู้ภัยทีมตอบโต้ภัยพิบัติจังหวัดพังงา กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองได้รับแจ้งจากญาติให้มาดูผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเมื่อมาถึงพบผู้บาดเจ็บนอนอยู่บริเวณหลังบ้านและมีญาติๆกำลังยืนมุงดูอยู่และตนเองได้แจ้งไปยังศูนย์นเรนทร 1 6 6 9 เพื่อให้รถกู้ชีพของโรงพยาบาลตะกั่วป่าเข้ามาสนับสนุนตนเองได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องในการทำ CPR ซึ่งตอนที่เข้ามาเห็นบาดแผลใบหน้ามีเลือดออกมาก
เบื้องต้นกรณีดังกล่าวทางคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภตะกั่วป่า มีพยานหลักฐานเชื่อว่านายชากรีฯ เป็นผู้กระทำความผิด ตามข้อกล่าวหาข้างต้น มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับได้ และหากไม่จับกุมตัวไว้ ผู้ต้องหาจะหลบหนีอย่างแน่นอน หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือ ก่อเหตุอันตรายประการอื่น ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 78(3) ประกอบ ป.วิอาญา มาตรา 66 (2) จึงได้จับกุมกุมตัวผู้ต้องหานี้ โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา ให้ผู้ต้องหานี้ ทราบและ เข้าใจ ข้อกล่าวหา ดีแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาทุกข้อกล่าวหา โดยรับว่า ได้ใช้มีดพร้าเล่มดังกล่าว ฟันนางนับส้าฯ ซึ่งเป็นแม่จริง สาเหตุจาก นางนับส้าฯ ซึ่งเป็นแม่ ไปพูดบอกกับชาวบ้านว่า ตนมีเพศสัมพันธ์ กับแม่ ซึ่งไม่เป็นความจริง ตนจึงโกรธแค้น และใช้มีดพร้า ฟัน แม่ไป ประมาณ 4 ครั้ง จึงได้คุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วป่า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พรชัย แซ่เอี๋ยว จ.พังงา
