อาสาสมัครสมาคมกู้ภัยจ.สิงห์บุรี พร้อมทีมอาสาฯ นักประดาน้ำจาก จ.อ่างทอง เร่งวางแผนช่วยกันนำร่างของ ชาย วัย 68 ปี ที่ลงไปช่วยเหลือแพะของตัวเอง พลัดตกลงไปในบ่อวงบ่อซีเมนต์ความลึก 7 เมตร 20 ซม. ที่ ม. 8 ต.พักทัน อ.บางระจัน จ. สิงห์บุรี โดยมีภรรยาของผู้เสียชีวิตนั่งร่ำไห้ อยู่ใกล้บ่อ ได้เล่าว่า สามีของตนหลังนำแพะที่เลี้ยงเข้าคอกในบ้าน ตรวจพบมีแพะ แม่ลูกอ่อนหายไป 1 ตัว สามีจึงขี่ จยย.ออกตามหา คาดว่าพบแพะตกลงไปในบ่อบาดาล จึงไต่สายพานวินหน้าบ่อลงไปช่วย ขณะที่ ลูกสาว เห็นพ่อหายไปนานผิดปกติ จึงปั่น จักรยานออกตาม พบ รถ จยย. ของพ่อ จอดอยู่ข้างบ่อจึงเดินไปดูพบพ่อและแพะอยู่ก้นบ่อบาดาล สาเหตุ คาดขาดอากาศหายใจ เสียชีวิตทั้งคน และแพะ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ (3 พ.ค.66 )ร.ต.อ.สุชาติ ยอดดำเนิน ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางระจัน รับแจ้ง มีคนพลัดตกวงรองบ่อบาดาล ที่บริเวณ กลางทุ่งนา ม.8 ต.พักทัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี จุดเกิดเหตุห่างจากถนน สายชันสูตร – สรรคบุรี จ.ชัยนาท ลงทุ่งไปประมาณ 1 กิโลเมตร หลังรับแจ้งรุดตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาลบางระจัน อาสามูลนิธิสมาคมกู้ภัยสิงห์บุรี
ในที่เกิดเหตุมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งยืนออจับกลุ่ม วิพากษ์วิจารณ์ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภายใต้ต้นมะม่วง พบบ่อบาลดาลวงรองซีเมนต์มีความ ลึก 7 เมตร 20 ซม. 18 วงรอง สภาพปากบ่อ มีถุงปุ๋ยเก่าปกคลุม และฉีกขาดออกจากกัน ปาก บ่อพบ รองเท้าแตะ สีดำ 1 คู่ มองลงไปก้น บ่อบาดาล พบร่างของนาย ปรุง ทองจันทร์ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/2 ม.8 ต.พักทัน อ.บางระจัน จ. สิงห์บุรี สภาพศพ คว่ำหน้าสวมเสื้อลายสก๊อตแขนยาวสีน้ำตาล กางเกงขาสั้น และ ซากแพะ เพศเมีย 1 ตัว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง
นางสำพิมพ์ ทองจันทร์ อายุ 62 ปี ภรรยา นาย ปรุง เล่าทั้งน้ำตา ว่า ครอบครัวประกอบอาชีพเลี้ยงแพะในทุกวัน ตั้งแต่เช้า สามี คือ นายปรุง จะนำแพะออกไปเลี้ยง ตามพื้นที่ไร่นา ช่วงสายๆ จะนำแพะ เข้าที่คอกที่พัก ตรวจสอบฝูงแพะ มีแพะหายไปหนึ่งตัว จึง ขี่จักยานยนต์ ออกตามหา ต่อมา ลูกสาว กลับจากทำธุระข้างนอก สอบถาม ว่า พ่อหายไปไหน จึงบอกลูกสาวไปว่า พ่อออกไปตามหาแพะ มันหายไปตัวหนึ่ง จากนั้นด้วยความสงสัย ว่าพ่อออกจากบ้านไปนาน ลูกสาวจึงปั่นจักรยาน ออกตามหา กระทั่ง มาพบ ร่างพ่อ กับแพะที่หายไป เสียชีวิตที่ ก้นบ่อบาดาลแล้ว ส่วนสาเหตุ คาดว่า นายปรุง มาพบ ร่างแพะที่ เลี้ยงไว้พลัดตกลงไปในบ่อบาดาล ต้องการจะรีบช่วยเหลือแพะ จึงไต่ สายพานหน้าวินลงไป เมื่อถึงก้นบ่อ คาดว่า ไม่มีอากาศหายใจ ทำให้หมดสติและเสียชีวิตทั้งเจ้าของแพะ และ แพะที่เลี้ยงดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าชุดกู้ภัยสิงห์บุรี ประสานให้ ชุดกู้ภัยอ่างทองนำนักประดาน้ำ มาช่วยโดยใช้เวลา 3 ชั่วโมงเศษ จึงได้นำร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาได้ ขณะปฏิบัติงานพบมีอุปสรรคต้องวางแผนคำนึงถึงความปลอดภัยทุกขั้นตอน แต่สุดท้ายก็สามารถนำร่างขึ้นมาได้ ญาติไม่ติดใจเอาความนำศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
จินตนา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี
