เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ (24 ม.ค.65) ร.ต.อ.อัสนีย์ กองเกิด รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุวิ่งราวทรัพย์มีผู้บาดเจ็บที่บริเวณปากซอยแบริ่ง 5 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงจำนวน 2 รายเป็นแม่ลูกกัน รายแรกชื่อ น.ส.ดวงกมล ประเสริฐ อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาเป็นบาดแผลพุพองเนื่องจากถูกท่อไอเสีย และนางสุนทร ประเสริฐ อายุ 68 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขาท่อนล่างข้างขวาถูกรถจักรยานยนต์ทับ เจ้าหน้าทีมูลนิธิได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ใกล้กันได้พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน อคว 326 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของผู้บาดเจ็บทั้งสอง ล้มคว่ำอยู่ข้างถนน
นางสุนทร ผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นแม่ ได้เล่าว่า ตนมีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ที่วินคันทรีบางนา เบอร์ 4 ส่วนลูกสาวขายเครื่องสำอางอยู่แถว 4 แยกบางนา ก่อนเกิดเหตุ หลังเลิกขี่รถตนได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมารับลูกสาวที่ร้านย่านบางนา เพื่อที่จะพากันกลับบ้านที่อยู่ในซอยแบริ่ง 35 โดยขี่มาทางถนนสุขุมวิทขาออกและเลี้ยวซ้ายเข้าซอยแบริ่ง ขณะที่ขี่มาถึงปากซอยแบริ่ง 5 ได้มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีแดง ทะเบียน(ขอปิดเลขทะเบียนไว้ก่อน) จังหวัดอุดรธานี ขึ้นมาประกบทางด้านขวา ก่อนที่ใช้มือเอื้อมมากระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง ที่ใส่อยู่ที่คอลูกสาวตน จนขาดติดมือคนร้ายไปก่อนที่คนร้ายจะใช้เท้าถีบรถตนจนเสียหลักล้มมาทางขวา จึงทำให้เกี่ยวกับรถของผู้ก่อเหตุจนล้มด้วยเช่นกัน ตนถูกรถตัวเองทับส่วนลูกสาวขาไปถูกท่อไปเสียของรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุจนพุพอง ก่อนที่ลูกสาวตนจะตะโกนบอกว่ามันกระชากสร้อยทองไป ทำให้ผู้ก่อเหตุได้ยกรถจักรยานยนต์ขึ้น พร้อมทั้งชักมีดปลายแหลมออกมาออกมาขู่ทำท่าจะแทงพร้อมทั้งโวยวายว่า เอาเงินมาเลย 500 บาทที่มาชนรถจนล้ม ขณะที่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้เดินเข้ามาช่วยผู้ก่อเหตุตกใจจึงได้ขี่รถหลบหนีออกไปทางปากซอย ซึ่งลูกสาวตนจำใบหน้าของผู้ก่อเหตุได้อย่างชัดเจนรวมทั้งทะเบียนรถของผู้ก่อเหตุ ซึ่งได้ให้ข้อมูลไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะขี่รถจักรยานยนต์ติดตามผู้ก่อเหตุมา จนกระทั่งสบโอกาสซึ่งเป็นพื้นที่มืดจึงลงมือก่อเหตุ และใช้เท้าถีบรถผู้เสียหายให้ล้มเพื่อป้องกันการติดตาม แต่เกิดพลาดรถผู้เสียกลับล้มมากระแทกรถผู้ก่อเหตุจนเสียหลักล้มจึงชักมีดออกมาขู่และทำเสียดังเพื่อกบเกลื่อน แต่พอมีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์และเข้ามาช่วยจึงรีบขี่รถหนีไป อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้จะได้ประสานของภาพจากกล้องวงปิดที่บริเวณหน้าคอนโดแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ตรงจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะบันทึกภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ
ติดต่อโฆษณา โทร.0949608555