เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น.วันที่ (3 พ.ค.2567 ) เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถนนสายโพธิ์พระยา-วังยาง สายเก่า ตำบลโพธิ์พระยา อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จึงประสานกำลังเข้าตรวจสอบเพื่อช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับสี่แยกไฟแดงตลาดโพธิ์พระยา พบร่างผู้บาดเจ็บนอนแน่นิ่งอยู่ใกล้กับรถจักรยานยนต์แบบหญิง หมายเลขทะเบียน 1 กบ 4873 สระบุรี ล้มอยู่ มีกระเป๋าสะพายสีดำตกอยู่ภายในกระเป๋ามีทุเรียนอยู่ 2 ลูกและที่ใต้เบาะนั่งอีก 1 ลูก ส่วนคนขับทำท่าเหมือนคนสลบ มีบาดแผลถลอกบริเวณศีรษะเจ้าหน้าที่พยายามเรียกให้ตื่นเพื่อสอบถามอาการและข้อมูลเบื้องต้นแต่คนเจ็บไม่ยอมพูดจา นอนนิ่งเหมือคนสลบอย่างเดียว หลังปฐมพยาบาลเสร็จกำลังจะนำขึ้นรถกู้ภัยเพื่อไปส่งโรงพยาบาล
ระหว่างนั้นมีนายโรจนวิทย์ ทวนทอง อายุ 31ปี ได้บอกกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยว่าผู้บาดเจ็บคือคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยทุเรียนของตน จำนวน 3 ลูกจากตลาดสดโพธิ์พระยาและหลบหนีมาประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มได้รับบาดเจ็บ ขอให้แจ้งตำรวจมาจับตัวไปดำเนินคดีให้ด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเปลี่ยนที่หมายจากโรงพยาบาลเป็นโรงพักแทนเพราะผู้บาดเจ็บอาการไม่สาหัส เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวน จากจุดเกิดเหตุไปจนถึงโรงพักผู้บาดเจ็บไม่ยอมตอบคำถามใดๆของกู้ภัยได้แต่นอนนิ่งกระทั่งไปถึงโรงพักก็ไม่ยอมเดินเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันหามขึ้นไปส่งให้ตำรวจ
พ.ต.ท.วัฒนา แก้วเจริญ รองผู้กำกับสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี เจ้าของคดีกล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบสวนผู้บาดเจ็บก็ยังไม่ยอมพูด จนต้องให้ตำรวจสายตรวจมาขู่จึงยอมพูดโดยบอกเพียงว่าชื่อนายสุทัศน์ เจ็ดกริช อายุ 45ปี ไปขโมยทุเรียนเพราะอยากกิน จากนั้นก็ไม่ยอมพูดอะไรและนอนต่อเหมือนคนสลบเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยาพาหนะ
ทางด้าน นางวันเพ็ญ ทวนทอง 63ปี แม่ค้าขายทุเรียนอยู่ตลาดสดโพธิ์พระยา ผู้เสียหายเล่าว่าตนขายทุเรียนมานานตั้งแต่จำความได้กระทั่งถึงปัจจุบันไม่เคยถูกขโมยของเพราะตนเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่นชอบทำบุญ บางครั้งลูกค้ามาซื้อทุเรียนเงินไม่พอจ่ายตนก็ยกให้ หรือบางครั้งคนแก่ยากจนพาหลานมาเดินตลาดหลานบอกอยากกินทุเรียนตนก็ให้ฟรีๆ แต่ครั้งนี้หลังจากตนปิดแผงขายผลไม้กลับบ้านได้ประมาณ 1 ชั่วโมงสัญญาณจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่แผงขายผลไม้ซึ่งมีทั้งแตงโมง ส้มโอ และทุเรียน ก็แจ้งเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือ จึงเปิดดูก็เห็นคนร้ายเป็นชายเข้ามาขโมยทุเรียนเกรดเอ ที่เก็บไว้ในเข่งใต้โต๊ะ ซึ่งผลของตนไม่ได้เก็บกลับบ้าน จึงให้ลูกชายออกไปดู ก็พบว่ามีพ่อค้าที่ขายของอยู่ตลาดเดียวกันบอกลูกชายว่ามีคนร้ายขโมยทุเรียน จึงช่วยกันขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตาม
หลังจากที่คนร้ายขับรถจักรยานยนต์หนีไปได้ประมาณ 800 เมตรรถจักรยานยนต์ของร้ายเกิดล้มลูกชายและพ่อค้าที่ตามไปก็ช่วยกันจับตัวคนร้ายไว้ได้ แต่คนร้ายแกล้งทำเป็นเจ็บหนักจนสลบ ครั้งแรกตนคิดจะไม่เอาเรื่องเพราะคิดว่าคนร้ายขโมยทุเรียนไป 1ลูกแต่พอเห็นคนร้ายย้อนกลับมาเอาทุเรียนซึ่งเป็นทุเรียนเกรดเอ ซื้อมาจากสวนนายอำเภอที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งราคาแพง ทุเรียนที่คนร้ายขโมยไป 3ลูกคิดเป็นเงินกว่า 2,000 บาท จึงให้ตำรวจดำเนินคดีเพราะถ้าปล่อยไว้คนร้ายอาจไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก
นายโรจนวิทย์ ทวนทอง 31ปีลูกชายผู้เสียหายกล่าวว่าขณะกำลังนอนหลับแม่มาปลุกบอกมีคนร้ายขโมยทุเรียนที่แผงในตลาดโพธิ์พระยา จึงรีบออกไปดูก็พบพ่อค้าที่ขายของอยู่ตลาดเดียวกันกำลังขี่รถไล่ตามคนร้ายและบอกว่าเป็นคนร้ายที่ขโมยทุเรียนของตน จึงช่วยกันติดตามกระทั่งรถคนร้ายล้มและจับตัวได้พร้อมของกลาง ซึ่งก่อนหน้าที่คนร้ายจะมาขโมยทุเรียนของตน ก็มีเหตุการณ์คนร้ายมาขโมยของพ่อค้าแม่ค้าในตลาดโพธิ์พระยาแต่ยังจับตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ผู้เสียจึงมาซุ่มดูก็พบคนร้ายมาขโมยของตนจึงไล่ตามจับแต่คนร้ายไม่ยอมพูดทำเป็นว่ารถล้มสลบ อยากบอกคนร้ายว่าให้รู้จักทำมาหากินเหมือนคนอื่นเขามีงานให้ทำเยอะแยะ มือเท้าก็ดีครบไม่ได้พิการ ชาวบ้านเขาเดือดร้อน
ทางด้านนายจิรโชติ จำปาเงิน อายุ19 ปี อาสาสมัครมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่ไปช่วยคนเจ็บกล่าวว่า ตอนแรกได้รับแจ้งว่ามีรถจักรยานยนต์แหกโค้ง จึงนำกำลังมาตรวจสอบ พอมาเจอพบว่านอนเหมือนสลบนึกว่าอาการโคม่า มีบาดแผลรอยถลอกที่ศีรษะ เลือดออกเล็กน้อย จึงประเมินอาการคนเจ็บตามหลักของ สพฉ.โดยการใช้มือกดลิ้นปี่ คนไข้กลับสดุ้ง และร้องโอ้ย จึงรู้ว่าแกล้งทำสลบ แต่ก็เรียกไม่ยอมลุก จึงต้องทำการอุ้มคนไข้ใส่เปล ไปโรงพัก ถึงโรงพักก็ยังไม่ยอมตื่น ทำนอนไม่รู้ไม่ชี้ ถามอะไรไม่ยอมตอบ จนต้องอุ้มเข้าห้องขังเอาไว้ก่อน ซึ่งตนก็ไม่เคยเจอเคสแบบนี้มาก่อน นับว่าคนร้ายรายนี้แสบสุดตั้งแต่เคยพบเจอมา
ภัทรพล พรมพัก จ.สุพรรณบุรี