ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางสาว เฟื่องฟ้า ฤกษ์จำนง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/43 ม. 1 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา อาชีพธุระกิจส่วนตัว ว่าโดนสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโคกกลอย พร้อมพวกนับ 10 คน บุกมาหน้าบ้านด่ากราด และพูดจาข่มขู่ ท้าทาย ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่เพื่อสอบถามเหตุการณ์ดังกล่าว
นางสาว เฟื่องฟ้า ฤกษ์จำนง เล่าว่า สืบเนื่องมาจากงานทอดกฐินวัดไตรมรคสถิ ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2565 ที่ผ่านมา ตนเองและครอบครัว รวมถึงเพื่อนๆ ได้ร่วมกันทำบุญติดพุ่มกฐิน จำนวน 1 พุ่ม โดยได้เขียนป้ายชื่อติดไว้ที่พุ่มว่า “อู่ จี เอส เซอร์วิส” แล้วนำไปวางไว้ในศาลาที่ทางวัด หลังจากเสร็จพิธีทางสงฆ์ ก็ได้เดินไปหยิบพุ่มกฐินของตนเอง เพื่อนำมานับจำนวนเงินที่ติด แล้วรวบรวมส่งให้กับทางวัด แต่กลับไม่พบพุ่มกฐินของตนเองที่วางไว้ จึงได้เดินหาพร้อมสอบถามกรรมการวัด จนพบพุ่มกฐินของตนเองพร้อมป้ายชื่อ แต่เงินที่พุ่มไม่มี วางอยู่บริเวณกลุ่มของสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโคกกลอย ซึ่งกำลังนั่งนับเงินพุ่มกฐินกันอยู่ ตนเองจึงเข้าไปสอบถามว่าใครเป็นคนนำพุ่มกฐินของตนเองมา แต่กลับไม่มีคำตอบแต่อย่างใด ตนเองเลยเข้าไปสอบถามทางกรรมการวัด ว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากพุ่มกฐินของตนเองนั้น ยังไม่ได้นับจำนวนเงินที่จะถวายวัด สุดท้ายทางเจ้าอาวาสวัด ก็เรียกมาพูดคุยกัน จนเป็นที่น่าพอใจ หลังจากนั้นประมาณวันที่ 10 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา มีผู้หวังดีได้ส่งคลิปวีดีโอที่บ่งบอกว่าใครเป็นคนหยิบพุ่มกฐินของตนเองไป ตนเองจึงได้นำคลิปวีดีโอ เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.โคกกลอย ทั้งนี้เนื่องจากทางวัดไม่ได้รับผิดชอบอะไร โดยแจ้งว่าพุ่มกฐินที่ยังไม่ได้นับจำนวนเงินนั้นยังคงเป็นของเจ้าตัว ทางวัดไม่มีหน้าที่มาเฝ้าพุ่มกฐินให้ต้องดูแลกันเอง ซึ่งทางวัดเองก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ตนเองจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไป
นางสาว เฟื่องฟ้า เล่าเพิ่มเติมว่า หลังจากที่แจ้งความเสร็จตนเองก็กลับมาร้านที่เปิดเป็นแฟมิลี่มาร์ท ตั้งอยู่ที่ 4/41 ม. 1 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เพื่อทำงานต่อ พอตกช่วงค่ำของวันเดียวกัน สักประมาณ 19.00 น. ได้มีขบวนทั้งรถยนต์ จักรยานยนต์ สามล้อพ่วงข้างมาจอดที่หน้าบ้านของตนเอง และลงจากรถมีทั้งชายและหญิง นับ 10 คน หนึ่งในนั้นมีสมาชิกสภาเทศบาลตำบลโคกกลอย (สท.) ได้ตะโกนต่อว่า ด่าทอด้วยคำหยาบคาย พูดจาท้าทายตนเอง หาว่าตนเองกล่าวหาว่าแม่ของเขาไปขโมยพุ่มกฐินของตนเอง พร้อมถ่ายคลิปวีดีโอ และไลน์สดผ่านโซเชียล ซึ่งภายในร้านมีผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก ทำให้ตนเองและคนในร้านตกใจ กลัว และอับอายขายหน้า ทั้งนี้ ร้านค้าของตนเองก็อยู่หางจาก สภ.โคกกลอยเพียง 50 เมตร จึงได้บอกกับกลุ่มที่มาว่าอย่ารีบไปเดี๋ยวไปตามตำรวจมาพูดคุยกัน หลังจากนั้นกลุ่มคนดังกล่าวก็ต่างกลับขึ้นรถพร้อมขับออกไปทันที หลังจากนั้นตนเองก็ได้ไปแจ้งความลงบัญทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โคกกลอย ตนเองและครอบครัวอยู่อย่างหวาดกลัวและอับอาย เพราะไม่รู้วันไหนจะโดนแบบนี้อีกหรือหนักว่าเดิม เพราะด้วยเขาเป็นถึง สท. เราเป็นแค่ประชาชนคนหนึ่ง และด้วยกิริยาท่าทาง คำพูดคำจาของ สท. ท่านนี้ ก็ไม่น่าเคารพนับถือ เป็นถึงผู้นำชุมชนแต่กลับใช้อารมณ์มาด่าชาวบ้านแบบนี้ ตนเองจึงตัดสินใจติดต่อผู้สื่อข่าวให้ช่วยนำเสนอเรื่องราวนี้ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมต่อไป