พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.อ.สถิตย์ วิชัยกุล ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) โดยบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยาและเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส.สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ
จนกระทั้งเมื่อวันที่ (3 พ.ค.67) เวลาประมาณ 12.10 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง ด.ต.วิชัย ตามสมัย ด.ต.ยศภัทร อินต๊ะ ผบ.หมู่ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. ออกสำรวจเส้นทาง พบรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า COMMUTER สีขาว หมายเลขทะเบียน1 นค-7590 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมาโดยใช้ความเร็วสูงและมีผ้าใบสีดำปิดที่ด้านท้ายรถและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติ จึงได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.17-18 ถนนปทุมธานี-บางปะหัน ทล.347 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าตรวจสอบนายวันชัย วนาวิลาวัณย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1108 หมู่ 2 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ผู้ขับขี่ โดยมีผู้โดยสารนั่งมากับรถยนต์คันดังกล่าวด้วยจำนวน 19 คน จึงเชิญตัวมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สถานีตำรวจทางหลวง 1 กก.1 บก.ทล. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา ทราบว่าผู้โดยสารที่โดยสารมาด้วยเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด
จากการสอบถามนายวันชัย ผู้ขับขี่ให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่3 พ.ค.67 เวลาประมาณ 08.00 น.ได้รับการประสานจากชาวไทยไม่ทราบชื่อ-นามสกุล ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 19 คน ที่บริเวณ อ.ตากฟ้า จ.ตาก เพื่อไปส่งที่ปลายทาง ที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยได้ค่าจ้าง 19,000 บาทต่อครั้ง โดยได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง โดยที่ตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 19 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบทำแบบนี้มาแล้ว 5-6 ครั้ง เงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้
จากการสอบถามบุคคลต่างด้าวผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก แล้วจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 15,000-25,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม และ “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
