วันที่ (16 พ.ย.66) จากกรณีที่มีผู้ใช้โซเชียลในแพลตฟอร์ม ติกต๊อก เมื่อวันที่ 14 พ.ย.โดยใช้ชื่อ num_supri ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะเข้าไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีผ่านทางศูนย์ดำรงธรรม แต่กลับพบว่ายังไม่มีใครมาทำงานสักคน โดยระบุข้อความว่า “เวลาทำงานของข้าราชการไทย 08.30 น. แต่กว่าจะมาถึง กว่าจะขึ้นไปเซ็นชื่อ กว่าจะเริ่มงานเกือบ 09.00 น. สร้างอาคารกันหลาย 100 ล้าน กรุณาเปลี่ยนระบบสแกนนิ้วเข้างานได้แล้วครับ บางคน 09.30 น.เพิ่งจะมาถึงที่ทำงาน ในคลิปได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เวลา 08.47 น. อยู่ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสระบุรี ทำเอกสารมายื่นให้เพื่อผ่านไปถึงผู้ว่าฯ แต่เราประสงค์ตามลำดับ ผ่านศูนย์ดำรงธรรม ยังไม่มีใครมาทำงานเลยสักคน ถามเจ้าหน้าที่ให้นั่งรอสักครู่ ตอนนี้เกือบ 9 โมงแล้วยังไม่มีใครมาสักคน แม้แต่ห้องรับเรื่องก็ไม่มีใครสักคน ศูนย์ราชการใหม่ใช่ไหม คงไม่มีใครย้ายมา ไปห้องผู้ว่าฯ เลย และได้สอบถามหญิงสาวที่เจอในลิฟต์ ว่าเอ๊ะ ราชการนี้เขาทำงานกันกี่โมง หญิงสาวตอบชัดเจนเสียงดังว่า08.30 น. ผู้โพสต์ยังเน้นย้ำว่า “นี่มัน 08.50 น.แล้วครับ ไม่มีใครทำงานสักคนครับ จากนั้นจึงเดินขึ้นไปยังห้องของผู้ว่าฯ แล้วคุยกับเจ้าหน้าที่ถึงเรื่องที่ไม่มีใครอยู่รับเรื่องที่ศูนย์ดำรงธรรมเลยสักคน และเน้นย้ำว่าเจอเพียงเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.อยู่คนเดียวที่บอกให้นั่งรอเจ้าหน้าที่มา ทั้งนี้ พบว่าเจ้าหน้าที่พยายามอธิบายว่าเนื่องจากเป็นวันที่มีการจัดงานราชพิธี จึงอาจไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ ผู้โพสต์จึงแย้งไปว่า เขาให้เพียงหัวหน้าหน่วยเท่านั้นที่เข้าร่วมพิธี
อย่างไรก็ตาม หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจำนวนมาก และมีอีกหลายคนที่เคยเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันของการทำงานของราชการไทย ที่ทั้งมาสาย และไม่มีประสิทธิภาพ โดยมองว่าปัญหาสังคมที่แก้ไขไม่ได้ส่วนหนึ่งมาจากระบบราชการที่ไม่มีการบังคับใช้กฎให้จริงจัง
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดสระบุรีและติดต่อไปยังสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรีเพื่อขอให้ทางหัวหน้าส่วนราชการชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยได้พบกับนายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังวัดสระบุรี รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี โดยได้ชี้แจงเรื่องที่มีผู้มาติดต่อกับหน่วยงานราชการและได้ถ่ายคลิปวีดีโอ โพสต์แชร์ลงในสื่อโซเชียล กล่าวว่า ตามที่ปรากฏ ในข่าวสื่อทางโซเชียล มีผู้มายื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมแล้วแล้วไม่พบใครมาทำงาน จากการตรวจสอบของจังหวัดสระบุรีนั้น ได้รับทราบข้อเท็จจริงว่า ในวันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ช่วงเวลาประมาณ 08:40 น. มีประชาชนได้มายื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรม แล้วกล่าวอ้างว่าไม่พบกับเจ้าหน้าที่ ไม่มีใครมาทำงาน ทางจังหวัดได้ตรวจสอบแล้ว ได้ทราบข้อเท็จจริงแล้วว่าในเวลาดังกล่าวนั้น มีเจ้าหน้าที่ของศูนย์อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอรมน. ของจังหวัดสระบุรี อยู่ในห้องนั้นถึง 2 ท่าน
ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งสองท่านนั้นได้รับมอบหมาย ให้มาปฏิบัติหน้าที่ ประจำที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด เพราะฉะนั้นในการยื่นหนังสือ เจ้าหน้าที่ 2 ท่านนั้น ก็มีอำนาจหน้าที่รับหนังสือ ของท่านได้โดยตรง ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว เจ้าหน้าที่ กอรมน. ทั้ง 2 ท่าน ก็ได้แจ้งให้กับผู้ร้องได้รับทราบว่า จะขอรับหนังสือ แต่ทางผู้ร้องไม่ประสงค์ที่จะยื่นให้ อยากจะยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมโดยตรง อันนี้ทางจังหวัดก็ขอเรียนข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ท่านนั้น ได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จึงมีอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ดำรงธรรมอย่างถูกต้อง ตามที่ได้มีการมอบหมายจากทาง กอรมน. ให้มาช่วยงาน ที่ศูนย์ดำรงธรรมครับ
ในวันนั้นก็คือมีเจ้าหน้าที่มาทำงานตามปกติ และในส่วนที่บอกว่า วันนั้นเป็นพิธีวันรำลึกฝนหลวง ที่ศาลากลางจังหวัด ซึ่งโดยปกติแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ของทางจังหวัดส่วนนึง ก็ไปช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดพิธี ส่วนผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมนั้น เท่าที่ทราบรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น ท่านผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมนั้นอยู่ ชั้น 4 ที่ห้องสำนักงานจังหวัด แล้วก็ได้รับการประสานงานจากทางหน้าห้อง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว ถ้าก็ลงมาที่ศูนย์ดำรงธรรม แล้วจึงเจอกับผู้ร้องจึงได้ยื่นหนังสือ ได้รับหนังสือจากผู้ร้อง ระยะเวลาก็ไม่น่าห่างกันมาก ท่านผู้อำนวยการอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดอยู่แล้ว ซึ่งปกติแล้วการทำงานของข้าราชการ ช่วง 08:00 น. ถึง 08:30 น. ก็ทยอยมากัน แต่บางท่านอาจจะมีภารกิจส่วนตัว มีภารกิจอยู่ในศูนย์ราชการ ซึ่งอาจจะต้องเรียกและก็ติดต่อให้ ซึ่งก็ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ กอรมน. ก็ได้แจ้งจากกับผู้ร้องแล้วว่าจะติดตามให้ อาจจะสื่อสาร หรือพูดคุยกันยังไม่เจน แต่ทางจังหวัดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ ในเรื่องนี้ให้ใช้ความระมัดระวังให้ยึดระเบียบกฏหมาย และในส่วนของการมาปฏิบัติหน้าที่ก็เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่เอาไว้แล้วครับ
เกียรติยง อัศวราศี จ.สระบุรี