เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ (14 ก.พ.65 ) คณะกรรมการวัดบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ และ นางเนตรทิพย์ เจริญวัย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ได้ร่วมกันทำการเปิดกุฏิอดีตเจ้าอาวาสฉาวเพื่อทำการตรวจสอบทรัพย์สินของอดีตเจ้าอาวาส และทำการถ่ายรูปเป็นหลักฐาน เพื่อทำการคัดแยกระหว่างสมบัติส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสและทรัพย์สินของวัดเพื่อเตรียมการส่งมอบให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางหญ้าแพรก รูปใหม่เป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของวัด โดยมีญาติของอดีตเจ้าอาวาสและชาวบ้านเดินทางมาดูการตรวจสอบทรัพย์สินของทางวัดในครั้งนี้ โดยที่ทางคณะกรรมการวัดและคณะสงฆ์ที่เข้าตรวจสอบภายในกุฏิโดยไม่อนุญาตผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจสอบแต่อย่างใด
โดยที่น้องสาวของอดีตเจ้าอาวาส ได้ระบุว่า ที่ตนมาในครั้งนี้เนื่องจากอดีตเจ้าอาวาสได้เคยสั่งไว้หากเป็นอะไรไปให้มาเอาเอกสารที่อยู่ในกระเป๋ากลับไปด้วย โดยที่ตนก็ยังไม่ทราบเช่นกันว่าเป็นเอกสารอะไร แต่เท่าที่สอบถามกับคณะกรรมการวัดที่เข้าร่วมตรวจสอบภายในกุฏิทราบว่าไม่พบกระเป๋าหรือเอกสารแต่อย่างใดมีเพียงรูปของบรรพบุรุษเท่านั้น ที่พบส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เป็นทรัพย์สินของทางอดีตเจ้าอาวาสตนขอถวายวัดทั้งหมด มีเพียงรูปบรรพบุรุษเท่านั้นที่ตนขอกลับไปไว้ที่บ้าน ขณะที่มีพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งได้ออกมาชี้แจ้งว่าวันนี้ยังไม่มีการเปิดกุฏิอดีตเจ้าอาวาสแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงการตรวจสอบทรัพย์สินของทางวัดภายในกุฏิอดีตเจ้าอาวาสเท่านั้น เพื่อเตรียมส่งมอบให้รักษาการณ์เจ้าอาวาสรูปใหม่เป็นผู้ดูแล โดยมีเจ้าคณะตำบลจะเดินทางมาดูการตรวจสอบทรัพย์สินของทางวัดเท่านั้น
นางเนตรทิพย์ เจริญวัย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า วันนี้ตนในฐานะได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ วันนี้ก็ไปเป็นพยานหรือไปช่วยตรวจสอบทรัพย์สินของอดีตเจ้าอาวาส จริง ๆ แล้ววัดก็สามารถทำเองได้แต่ในครั้งนี้เนื่องจากมีข่าวก็เลยต้องเอาทั้งตำรวจแล้วก็เจ้าหน้าที่ซึ่งต้องมีการแต่งตั้งเป็นคำสั่งซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นก็พบว่ามีเพียงเงินเหรียญและเงินแบงค์เล็ก ๆ เก่า ๆ ส่วนเหรียญก็จะมีพวกเหรียญบาทเหรียญสลึงเก่า ๆ และพวกพระเครื่องและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่พระใช้ ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้นเยอะมาก ส่วนเงินแบงค์ใหม่ ๆ ไม่มีเลยซึ่งส่วนใหญ่มีแค่แบงค์ 500 ซึ่งก็จะมีการใส่ไว้เป็นถุง ๆ และก็มีกระดาษโน้ตเขียนไว้ว่าเงินทำบุญสร้างศาลาอะไรแบบนี้และที่เยอะจริง ๆ คือเหรียญสลึงจำนวนมากไม่สามารถนับได้ ซึ่งเงินจำนวนนี้ก็จะกอง ๆ รวมอยู่ทั่ว ๆ ไปในกุฏิไม่ได้กองร่วมกันไว้แต่อย่างใด
ซึ่งน่าจะเป็นเงินจากตู้บริจาคและยังไม่ได้ไปฝากธนาคารอะไรแบบนี้ส่วนอื่น ๆ ก็ไม่พบว่ามีอะไรที่ผิดปกติหรือคิดว่าจะมีแต่มันก็ไม่มี ซึ่งในการตรวจสอบจะได้เข้าไปเพียงคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งเท่านั้นเราจะไม่ให้คนภายนอกเข้าไปโดยเด็ดขาด ซึ่งก็จะมีพระไวยาวัชกร สำนักพุทธและก็ตำรวจ คนที่ไม่ถูกแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการจะเข้าไปด้วยไม่ได้เลย เพราะว่าอันไหนที่เป็นสมบัติส่วนตัวของอดีตเจ้าอาวาสก็จะคืนให้เขาไป อันไหนเป็นของวัดก็ต้องคืนให้กับวัด ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนี้เพื่อเตรียมส่งมอบทรัพย์สินของวัดคืนให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดรูปใหม่เป็นผู้ดูแล อันนี้คือทรัพย์สินในกุฏิอดีตเจ้าอาวาส
ส่วนทรัพย์สินของวัดต้องให้ไวยาวัชกรเป็นคนบันทึกรายการทรัพย์สิน และต้องให้ทางคณะกรรมการตรวจสอบภายใน 30 วัน เพื่อให้รักษาการเจ้าอาวาสท่านได้บริหารจัดการต่อไปได้ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเขาก็สามารถบริหารจัดการกันได้เอง แต่ถ้าต้องการคณะกรรมการพระผู้ใหญ่หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้าไปด้วยก็ได้ในกรณีที่จัดการกันไม่ได้ อย่างในครั้งนี้ก็จะเอาข้าราชการผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะว่าอย่างที่เราเห็นอันนี้ประเมินโดยส่วนตัวแล้วท่านอาจจะไม่ดีในเรื่องต่าง ๆ แต่ว่าวัดได้รับการพัฒนามาโดยตลอด
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ