“สาวจิงโจ้ คนแดนไกล”ทุ่มสุดตัวสู้เปิดโปงพฤติกรรม “คุณนายอลิศ168” ภรรยาตำรวจใหญ่นครบาลท้าวแชร์ออนไลน์ชื่อดัง

“สาวจิงโจ้ คนแดนไกล”ทุ่มสุดตัวสู้เปิดโปงพฤติกรรม “คุณนายอลิศ 168” ภรรยาตำรวจใหญ่นครบาลท้าวแชร์ออนไลน์ชื่อดัง -หลังก่อคดีฉ้อโกงประชาชนทั่วประเทศมูลค่ากว่า 40 ล้าน-มอบอำนาจให้ “ทนายเจมส์” ทนายดังบุกยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ ผบช.น.

เมื่อวันที่ (19 เม.ย. 56)  ที่  กองบัญชาการตำรวจนครบาลนางสาวศุภาพัทธ์ คงพืช หรือ “สาวจิงโจ้ คนแดนไกล” นักธุรกิจสาวที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย มอบอำนาจให้นายนิติธร แก้วโต หรือ “ทนายเจมส์” ทนายความชื่อดังเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมและเปิดโปงพฤติกกรรมของคุณนายอลิศ 168 ท้าวแชร์ออนไลน์ และ สามีซึ่งเป็นนายตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลหลอกลวงยืมเงินจำนวน จำนวน 1,515,00 บาท และหลอกลวงให้ร่วมลงทุนแชร์ออนไลน์อีกจำนวน 360,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหาย ร่วม สองล้านบาท

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อปี 2563 คุณนายอลิศ 168 พร้อมนายตำรวจใหญ่สามี ได้เข้าขอความช่วยเหลือด้านการเงินกับรองผู้บังคับการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติท่านหนึ่งที่สาวจิงโจ้ เคารพนับถือและเป็นเพื่อนรักกับพี่ชายของเธอ และ ท่านรองผู้บังคับการ ฯจึงขอร้องให้สาวจิงโจ้ช่วยเหลือ คุณนายอลิศ 168 และสามีกู้ยืมเงิน จำนวนดังกล่าว โดยคุณนายอลิศ 168 ได้ทำสัญญากู้ยืมไว้และให้นายตำรวจใหญ่ผู้เป็นสามีเป็นผู้คำประกันเงินกู้ พร้อมสั่งจ่ายเช็คชำระหนี้ไว้จำนวน 3 ฉบับ แต่เมื่อถึงกำหนดจ่ายไม่สามารถขึ้นเงินได้ ธนาคารปฏิเสธ ให้เหตุผลว่า เงินในบัญชีไม่พอจ่าย จนต่อมานางสาวศุภาพัทธ์ คงพืช หรือ “สาวจิงโจ้”และรองผู้การ ฯ ได้ยื่นฟ้องคุณนาย อลิศ 168 และนายตำรวจที่เป็นสามีรวม 2 คดี

อย่างไรก็ตามได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยยอมความกันได้และทำสัญญาประนีประนอมยอมความในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่ศาลแพ่งตลิ่งชัน โดยมีข้อตกลงในสัญญาว่ายินยอมถอนฟ้องคดีในส่วนคดีอาญาเรื่องเช็คที่ศาลแขวงนครปฐม และทำการถอนฟ้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 และวันที่ 16 มีนาคม 2565 ซึ่งสาเหตุที่ถอนล่าช้าเนื่องจากทนายคนเดิมได้ขอถอนตัวและเห็นว่าไม่ได้มีการดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับเช็คต่อไปใด ๆ และคดีดังกล่าวยังไม่ได้มีการไต่สวนมูลฟ้อง  แต่ปรากฏว่าในวันที่ 9 มีนาคม 2565 คุณนายอลิศ 168 ภรรยาของนายตำรวจใหญ่ ได้ยื่นฟ้องสาวจิงโจ้ และรองผู้บังคับการ ฯต่อศาล ในข้อหาความผิดว่าสาวจิงโจ้และรองผู้การฯ ฟ้องเท็จโดยอ้างในคำฟ้องว่าสาวจิงโจ้ และรองผู้การ ฯ ได้นำเช็คค้ำประกันไปฟ้องร้องต่อศาล จังหวัดนครปฐมเป็นคดีเลขดำที่ อ.210/2564 ทั้ง ๆ ที่มีการเจรจาไกล่เกลี่ยยอมความพร้อมทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563 ทำให้เขาได้รับความเสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียง นอกจากนี้คุณนายอลิศ ยังได้โพสข้อความลงเฟซบุ๊กโดยมีข้อความที่เป็นการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาสร้างความเสียหายแก่สาวจิงโจ้และรองผู้การ ฯ อย่างไรก็ตามหลังทราบเรื่องนี้สาวจิงโจ้ และรองผู้การ ฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีที่ สภ. โคกกลอย จังหวัดพังงา ซึ่งปัจจุบันอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดพังงา ตามคดีเลขดำที่ อ. 627/2564

ในขณะที่นางสาวศุภาพัทธ์ คงพืช หรือ “สาวจิงโจ้ คนแดนไกล” ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตนเองเสียใจมากกับเหตุการณ์นี้ ต้องสูญเสียเงินร่วม 2  ล้านบาท อีกทั้งถูกหลอกอีกรอบโดยการให้เราไปถอนฟ้องคดีเช็ค พอถอนเสร็จ กลับมาฟ้องกลับ ด้วยขอหาฟ้องเท็จ และหลังจากที่ตนทราบว่าคุณนายอลิศ 168 มีพฤติกรรมล่อลวงโดยตั้งตนเป็นท้าวแชร์ออนไลน์ มีการโฆษณาหลอกลวงด้วยข้อความอันเป็นเท็จ จนมีประชาชนทั่วประเทศตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ได้รับความเสียหายรวมเป็นเงินกว่า 40 ล้าน ตนจึงตัดสินใจเดินหน้าเปิดโปงพฤติกรรมให้สังคมรับทราบและต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมช่วยเหลือประชาชนที่ตกเหยื่อหลายสิบคน โดยตนและผู้เสียหายได้รวมตัวกันยื่นฟ้องคุณนาย อลิศ 168 และพวกในฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน และพ.ร.บ.คอม ฯ และ พ.ร.บ.การกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามคดี อ.142 /2565และ อ.41/2565 โดยมีอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นโจทก์ และยังทราบว่ามีผู้เสียหายใน จ.ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร และตนยังเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่กลัวอำนาจ และบารมีของสามีคุณนายอลิศ 168 และสามีซึ่งเป็นนายตำรวจใหญ่ นับว่าเป็นบุคคลที่เป็นอันตายเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม ทำร้ายประชาชน และคนในองค์กรเดียวกันเพียงเพื่อ หลีกเลี่ยงการชำระหนี้สินที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นขบวนการหลอกลวงให้ผู้อื่นเล่นแชร์ออนไลน์จนต้องเสียเงินกันเป็นจำนวนมาก ตนจึงได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมเปิดโปงพฤติกรรมของคุณนายอลิศ 168 และสามีที่เป็นนายตำรวจใหญ่ในนครบาล เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับรู้พฤติกรรมของคุณนายอลิศ 168 และสามีที่เป็นนายตำรวจใหญ่ หวังให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยที่ผ่านมาตนได้ยื่นร้องเรียนผ่าน สน.จักรวรรดิ ต้นสังกัดเดิมของนายตำรวจใหญ่สามีของคุณนายอลิศ 168 ยื่นร้องผ่านสำนักงานตำรวจนครบาล สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ มาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน 2565 ล่าสุดยืนร้องต่อ สน.บวรมงคล รวม 6 ครั้ง/ฉบับ แต่เรื่องกลับเงียบหาย มีต้นสังกัดบางแห่งแจ้งกลับมาว่าพฤติกรรมดังกล่าวของคุณนายอลิศ 168 ไม่เกี่ยวข้องกับนายตำรวจใหญ่ที่เป็นสามี ทั้ง ๆ ในความเป็นจริงเงินและทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดจำนวนมหาศาล สามีและภรรยาที่ชอบของกฎหมายจะต้องร่วมกันรับผิดชอบ และแทนที่คุณนายอลิศ 168 และสามีจะสำนึกในการกระทำผิดและออกมาเยียวยาพร้อมขอโทษผู้เสียหายหรือแสดงความรับผิดชอบใดๆ ที่ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกว่ามิได้ถูกทอดทิ้ง แต่ กลับฟ้องยื่นฟ้องตนและท่านรองผู้บังคับการ ฯที่บอกว่า รักและเคารพมาร่วม 30 ปี ให้ตกเป็นผู้ต้องหาเพียงเพื่อใช้เป็นเครื่องมือต่อรองในหลายคดีที่ตัวเองถูกฟ้องและตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย อย่างไรก็ตามตนไม่รับข้อเสนอในข้อต่อรองในทุกกรณี และขอต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด โดยตนอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลีย จึงตนได้มอบหมายนายนิติธร แก้วโต หรือ “ทนายเจมส์” รับผิดชอบในทางคดี ซึ่งตนมั่นใจว่านายนิติธร แก้วโต หรือ “ทนายเจมส์” ทนายความชื่อดัง จะสามารถทำให้เรื่องจริงปรากฏและเกิดความยุติธรรมกับตนและประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อได้อย่างแน่นอน คืนความยุติธรรมกลับคืนมาให้เธอ” “สาวจิงโจ้ คนแดนไกล” กล่าวย้ำ


ในขณะที่ “ทนายเจมส์”นายนิติธร แก้วโต กล่าวว่า วันนี้ตนมายื่นขอความเป็นธรรมให้กับนางสาวศุภาพัทธ์ คงพืช หรือ “สาวจิงโจ้ คนแดนไกล” ซึ่งมีคดีกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นภรรยาของพันตำรวจโทท่านหนึ่ง เป็นคดีที่ฟ้องกันไปฟ้องกันมาเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงเริ่มต้นจากการให้ลงทุนเล่นแชร์แล้วก็โกงเงินกันหลังจากนี้ก็มีการกู้ยืมเงินกันต่างหากแล้วก็มีการสั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระหนี้แล้วได้มีการทำสัญญาประณีประนอมยอมความกันและมีการถอนฟ้องในคดีเช็ค แต่หลังจากนั้นถูกฟ้องกลับในเรื่องของการฟ้องเท็จ เพราะฉะนั้นคุณศุภาพัทธ์ กับผู้ต้องหาหรือจำเลยอีกรายหนึ่งที่ตกเป็นจำเลยคดีอาญาในข้อหาฟ้องเท็จ ก็เลยมาร้องขอความเป็นธรรมกับ ผบช.น. เนื่องจากเกรงว่าพันตำรวจโทสามีของผู้หญิงคนดังกล่าว จะเข้ามายุ่งเหยิงเกี่ยวกับคดีทำให้คู่กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงมาร้องเรียนและขอให้ทางผู้บังคับบัญชาให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่าพันตำรวจโทท่านนี้มีความเกี่ยวข้องกับคดีหรือไม่อย่างไร และช่วยปรามเพื่อไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดี ซึ่งอาจจะทำให้ได้เปรียบเสียเปรียบทางคดีหรือข้อกฎหมายต่าง ๆ โดยหลังยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมดังกล่าวให้กับ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เป็นที่เรียบร้อย จึงพากันเดินทางกลับไป

ภาพ/ข่าว ไพฑูรย์ อินทศิลา ทีมข่าวภูมิภาค

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

สมุทรปราการ-พระครูแจ้ ลั่น นักเรียนโรงเรียนวัดกาหลง ต้องมีห้องเรียนก่อนเปิดเทอม เร่งติดตามการซ่อมแซมอาคารเรียนที่ถูกพายุพัดถล่ม

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ (19 เม.ย.65 ) พระครูปลัด […]

You May Like

Subscribe US Now