วันที่ 13 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า กองบังคับการตำรวจทางหลวง กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล.,พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.ลัทธศักดิ์ ภูถี่ถ้วน รอง ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.ขุนเขา โพธิ์สุวรรณ รอง ผกก.1 บก.ทล.พ.ต.ท.สหธัญ กำบิลดีลิราช รอง ผกก.1 บก.ทล.ให้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. นำโดย พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.อธิวัฒน์ มารุดกล้า รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์,ร.ต.ต.วีรพงษ์ ดีจริง,ร.ต.ต.พงษ์กร เดชผล รอง สว.(ป.) ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.
ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล. นำโดย พ.ต.ท. อภิชาติ วงษ์ศรี สว.ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล., ร.ต.ท.ยอดชาย พยัคฆชนม์,ร.ต.ต.มารุจ สำริตผ่อง รอง สว.(ป)ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล., ด.ต.สมหมาย เทศน้อย,ดต.วิทยา ขนานใต้,ด.ต.ศิริพงศ์ เขียวอ่อน,ด.ต.ชยภัทร หอมยวนจิตร,ด.ต.อภิสิทธิ์ สุขโทน,ด.ต.ประยุทธ์ กลิ่นเกสร,ด.ต.หิรัญ อำภา และส.ต.อ.เทวา อ่อนบุตร ผบ.หมู่ ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล ร่วมกันจับกุม นายสุริยา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี พร้อมตรวจยึดของกลาง 1.เงินสดที่ได้มาจากการชิงทรัพย์ จำนวน 595,000 บาท โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและโดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดและพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม บริเวณภายในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง ถ.สายเอเชีย ต.ท่าโฉนด อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2564 เวลาประมาณ 14.30 น. ได้มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี สูงประมาณ 170 ซม. สวมหมวกแก๊ปสีดำ และสวมแมสปิดบังใบหน้า ได้ทำทีเข้าไปใช้บริการธนาคารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บ้านเก่า อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยได้กดคิวให้บริการตามปกติ เมื่อพบพนักงานธนาคาร คนร้ายได้ยื่นสมุดบัญชีเงินพร้อมแนบจดหมายน้อย เขียนข้อความขู่ว่า “ห้ามคุยกับใคร ในกระเป๋ามีปืนทำตัวปกติ เอาเงินมา 4 ล้านบาท ถ้าพูดคุยกับใครมีคนตาย ซึ่งคุณเป็นคนแรก” พนักงานธนาคารเกิดความกลัวจึงได้นำเงินในลิ้นชักให้คนร้ายไปจำนวน 600,000 บาท คนร้ายได้เอาเงินใส่กระเป๋าและรีบหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ไป
จากการสืบสวนของ ทราบว่าคนร้ายคือ นายสุริยาฯ อายุ 32 ปี ทำงานอยู่โรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรม ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไป จึงพบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีขึ้นรถตู้โดยสารไปกรุงเทพมหานคร จากนั้นขึ้นรถบัสโดยสารที่ขนส่งหมอชิต มุ่งหน้าไปจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานไปยังสถานีตำรวจทางหลวง จากนั้นจึงได้สั่งการให้รถตำรวจทางหลวงติดตาม ตลอดเส้นทางสายเอเชีย จนกระทั่งทราบว่าคนร้ายได้ขึ้นรถสาย กรุงเทพ-เชียงใหม่ จึงได้เรียกตรวจสอบ พบคนร้ายอยู่บนรถทัวร์ดังกล่าว จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจจนดูเป็นที่พอใจ ผลการตรวจค้น พบเงินสด จำนวน 595,000 บาทและให้การยอมรับว่าเป็นคนร้ายที่ชิงทรัพย์ธนาคารจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.2 ได้นำตัวไปขยายผลการจับกุม พร้อมตรวจยึดของกลางเสื้อผ้าที่สวมใส่ ตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพ โดยให้การว่าตนติดหนี้บัตรเครดิต บ้าน รถ จำนองที่นา มีหนี้สินกว่า 3 ล้านบาท วางแผนก่อเหตุมาตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 64 พร้อมรับว่า ได้ไปดูธนาคารมาแล้ว 4 แห่ง เหตุที่เขียนจดหมายน้อยเนื่องจากกลัวคนแตกตื่น
เกียรติยศ ศรีสกุล (บรรณาธิการ)
