จากกรณีหนุ่มเมาแล้วหื่นบุกเข้าบ้านเพื่อน และพยายามข่มขืนเมีย และลวนลามลูกสาววัย 14 ปี ของเพื่อนสนิท ขณะที่ เด็ก 14 ใช้มีดฟันหัว ผู้ก่อเหตุ ป้องกันตัวเมื่อเข้าแจ้งความ ตำรวจกลับแจ้ง “ไม่ให้เอาผิดผู้ก่อเหตุ” เพราะผู้ก่อเหตุจะฟ้องเด็ก 14 กลับข้อหาพยายามฆ่า
ล่าสุดวันนี้วันที่ (9 พ.ค.65) พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7 พร้อมฝ่ายกฎหมายของกองคดีภาค 7 เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ มายัง สนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว สภ.ด่านช้าง เพื่อติดตามคดีเพื่อนอนาจารเมียและลูกเลี้ยงของเพื่อน โดยมี พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ยิ่งยส เขินอำนวน ผกก.สภ.ด่านช้าง พ.ต.ท.เจษฎา พานิชวงศ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ด่านช้าง เจ้าหน้าที่ตํารวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 สุพรรณบุรี ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมและติดตามความคืบหน้าของคดี ซึ่งในวันนี้ได้ให้ ได้เข้าเก็บหลังฐานที่เกิดเหตุเพิ่มเติมอย่างละเอียด
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่า คดี พลต.อ.สุวฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้ให้ความสนใจและให้ความสำคัญเป็นอย่างมากจึงได้สั่งการให้ตน พร้อม พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.ภ.7 พร้อมฝ่ายกฎหมายของกองคดีภาค 7 พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ยิ่งยส เขินอำนวย ผกก.สภ.ด่านช้าง พ.ต.ท.เจษฎา พานิชวงศ์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ด่านช้าง เจ้าหน้าที่ตํารวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 สุพรรณบุรี ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานเพิ่มเติมและดูรายละเอียดด้วยตัวเอง
หลังจากได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมทั้งได้พูดคุยกับแม่ของเด็กและพ่อของเด็กอายุ14ปี ผู้เสียหายพร้อมทั้งให้ความมั่นใจกับพ่อและแม่ของเด็กว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ไม่สมารถยอมความได้ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่แนวทางที่จะไกล่เกลี่ยใดๆทั้งสิ้น ส่วนกรณีที่มีข่าวออกไปว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ “ไม่ให้เอาผิดผู้ก่อเหตุ” เพราะผู้ก่อเหตุจะฟ้องเด็ก 14 กลับข้อหาพยายามฆ่านั้น ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิดซึ่ง หรือเป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และเป็นความกังวนใจของผู้เสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดคุยพร้อมอธิบายให้พ่อและแม่เด็กฟังซึ่งพ่อแม่เด็กก็เข้าใจในเรื่องดังกล่าวแล้ว
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รอง ผบช.ภ.7 กล่าวว่าคดีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมากแล้ว และทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา กับผู้ก่อเหตุแล้ว 2 ข้อหา คือ 1.กระทำอนาจารเเก่บุคคลอายุเกินกว่า 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย 2.กระทำอนาจารเเก่เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนทุกด้าน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยรวดเร็ว ล่าสุดตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหานายตั้ม ผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 ข้อหาคือบุกรุกเคหสถานในยามวิกาล ก่อนส่งตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดสุพรรณบุรีต่อไปและพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว
ภัทรพล พรมพัก ผู้สื่อข่าวจังหวัดสุพรรณบุรี
