จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งชื่อคุณพิมพ์นารา ชูรูป ได้โพสต์แชร์คลิปวีดีโอและรูปภาพ พร้อมระบุข้อความไว้ว่า โจรงัด ของที่ร้าน ผู้ใดคุ้น ทักส่วนตัวมาหน่อยค่ะ เงินที่หายไปไม่เสียดายเท่า ที่งัดเครื่องจนพังเสียหาย แจ้งความแล้ว ลงบันทึกแล้ว เก็บหลักฐาน ตรวจสอบลายนิ้วมือแล้ว #ขอดูกลัองจากทางหน่วยงาน #ซึ่งไม่สามารถดูได้ #ไม่สามารถช่วยประชาชนได้ ดูไม่ได้ทั้งสาย ตั้งแต่หน้าซุ้มประตูวัดจนถึงวัดหนองจักร ประชาชนเดือดร้อน กี่ครั้งแล้ว ที่พวกเค้าไปขอดูกล้อง แต่กับช่วยอะไรไม่ได้เลย #ควรเปลี่ยนกล้องใหม่ หรือ #ควรเปลี่ยนผู้บริหาร แบบ ยกทีม ดีค่ะ
วันที่ (6 ก.ค.66 ) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนางสาวพิมพ์นารา ชูรูป อายุ 38 ปี เจ้าของร้านรับส่งพัสดุ ตั้งอยู่ที่ริมถนนสายทางเข้า วัดหนองยาวสูง ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี โดยนางสาวพิมพ์นารา ได้นำผู้สื่อข่าวไปดูภาพกล้องวงจรปิดที่คนร้าย 1 คน เข้ามาก่อเหตุในลักษณะเดินเข้าเดินออกพร้อมกับถือแท่งเหล็กใช้สำหรับงัดแงะและนำไปชี้ร่องรอยความเสียหายที่ตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญที่คนร้ายได้งัดแผ่นเหล็กที่ด้านหลังของตู้แต่ไม่สามารถเอาเงินที่อยู่ภายในตู้ออกไปได้เนื่องจากมีกุญแจล๊อกไว้อีกชั้นนึง จากนั้นนำไปตู้ความเสียหายที่ตู้ซักผ้าหยอดเหรียญ ที่กล่องเก็บเหรียญถูกคนร้ายงัดจนหลุดออกมาแล้วเอาเงินที่อยู่ภายในกล่องไปได้ประมาณ 500 ถึง 600 บาท
นางสาวพิมพ์นารา ชูรูป เจ้าของร้านรับส่งพัสดุ เล่าว่า ในคืนของวันที่ 5 ขณะที่นอนอยู่กับลูกที่ชั้นบน ตนเองได้ยินเสียงดังมาจากชั้นล่าง จึงได้เดินลงมาดู ก็เห็นสิ่งของอยู่ตามปกติ คอมก็ไม่หายลิ้นชักก็ไม่โดนเปิด ประตูก็ปิดเหมือนเดิม ก็เลยเดินกลับขึ้นห้อง แต่ก็อดคิดไม่ได้ถ้ามีโจรเข้ามาตนเองจะทำอย่างไรเพราะตนเองก็อยู่กับลูกรวม 3 คน หลังจากนั้นพอรุ่งเช้าได้มาเปิดประตูก็เห็นตู้น้ำมันมีรอยเปิดรอยแงะและสำรวจดูสิ่งของอื่นๆก็มีเครื่องซักผ้าผิดปรกติ แล้วก็ไปดูกล้องวงจรปิดก็เห็นมีผู้ชาย 1 คน เหมือนถือแท่งเหล็กมาด้วย ซึ่งมุมกล้องเห็นภาพคนร้ายได้แค่นั้น ซึ่งคนร้ายมีลักษณะใส่กางเกงขาสั้น เจเจ สีฟ้า เสื้อแขนยาวแขนสีดำส่วนตัวเสื้อสีเทาใส่หมวกสีดำเป็นฮู้ดและใส่แมส ซึ่งก็มองใบหน้าไม่ค่อยชัดได้แต่สังเกตลักษณะการสวมใส่เสื้อและรองเท้า เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นกับตนเองก็รู้สึกหวาดกลัวและอาจเกิดขึ้นอีกเพราะอยู่กันแค่นี้แล้วก็ไปขอดูกล้องจากหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นก็บอกว่ากล้องเสียใช้ไม่ได้ ซึ่งตนเองก็เป็นชาวบ้านก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เดือดร้อนก็ต้องไปของความช่วยเหลือจากชาวบ้านหลังอื่นๆที่มีกล้องให้ตนเองดูแต่ก็ไม่ได้มีทุกบ้านหรือถ้าบ้านที่มีกล้องก็ไม่ได้หันกล้องมาทางริมถนนเพราะส่วนใหญ่ก็หันกล้องเขาหาบ้านของเขาเอง
ส่วนเรื่องโจรที่เข้ามาก่อเหตุในพื้นที่นี้บ่อยมากและก็ไม่ใช่ร้านนี้ร้านเดียวร้านอื่นก็โดนเหมือนกัน แต่ข่าวก็เงียบช่วยอะไรไม่ได้และรวมความเสียหายแล้วเฉพาะตู้น้ำมันหยอดเหรียญทางช่างบอกว่ายังอยู่ในระหว่างประเมินความเสียหายและความเสียหายของเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ตัวกล่องเก็บเงินอยู่ที่ 4 พันบาท ส่วนเงินที่คนร้ายเอาไปก็ประมาณ 500 ถึง 600 บาท ส่วนที่ตนเองนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปโพสต์ลงในโซเชียล ตนเองก็คาดหวังอยากให้หน่วยงานติดกล้องให้ใช้การได้ ไม่ใช่ติดแค่ถนนในหมู่บ้านก็อยากให้มีเหมือนกันเพราะมีประชาชนอยู่เยอะเหมือนกัน
เกียรติยง อัศวราศี จ.สระบุรี