เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 เมษายน 2566 พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์ เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาเกษตรกรและพัฒนาพันธุ์ข้าวจังหวัดนครสวรรค์ 2566 กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการคัดเมล็ดและเพาะกล้า โดยมี นายเชิดพันธุ์ มาศรี นางสุดฤทัย เศรษฐนันท์ รองนายก อบจ. นางทัศวลี ผึ้งสีใส หัวหน้าฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รักษาการในตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมสวัสดิการสังคม และส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมในกิจกรรม มี นายเอกธนัช นวลละออง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมผู้ต้องขัง 2 เรือนจำชั่วคราวคลองโพธิ์ อำเภอเมืองนครสวรรค์ และสมาชิกกลุ่มเครือข่ายโรงเรียนชาวนา จำนวน 70 คน จากทุกอำเภอในจังหวัดนครสวรรค์ เข้าร่วมการอบรม สิบเอกพิทยา นาคกุญชร รองปลัด อบจ.นครสวรรค์ รักษาราชการแทน ผอ.กองสวัสดิการสังคม กล่าวรายงาน ณ ห้องประชุมเสือพ่นน้ำ แหล่งท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด
กำหนดจัดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการคัดเมล็ดและเพาะกล้า ระหว่างวันที่ 26 – 27 เมษายน 2566 ณ ห้องประชุมเสือพ่นน้ำ แหล่งท่องเที่ยวบึงบอระเพ็ด และเรือนจำชั่วคราวคลองโพธิ์
กิจกรรมวันที่ 26 เมษายน มีการบรรยายให้ความรู้ หัวข้อ “การพัฒนาพันธุ์ข้าว โดยการคัดเมล็ดข้าวกล้อง” หัวข้อ “วิธีการบ่มเพาะเมล็ดข้าวกล้อง” และการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ “การคัดเมล็ดข้าวกล้อง” โดย วิทยากรจากมูลนิธิการจัดการความรู้และเครือข่าย โรงเรียนชาวนาจังหวัด
กิจกรรมวันที่ 27 เมษายน มีการบรรยายให้ความรู้และฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ “การทำแปลงเพาะกล้า” และ “บำรุงรักษาแปลงเพาะกล้า” ต่อด้วยการทบทวน และสรุปผลการอบรม โดย วิทยากรจากมูลนิธิการจัดการความรู้และเครือข่าย โรงเรียนชาวนาจังหวัด
ทั้งนี้ ฝ่ายส่งเสริมสวัสดิการสังคม กองสวัสดิการสังคม อบจ.นครสวรรค์ ได้จัดทำโครงการพัฒนาเกษตรกรและพัฒนาพันธุ์ข้าวจังหวัดนครสวรรค์ 2566 เพื่อมุ่งหวังที่จะอนุรักษ์พันธุ์ข้าวเดิม ไม่ให้สูญพันธุ์ มีช่องทางการสร้างตลาดใหม่ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น จึงมีแนวคิดในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าว ที่มีคุณลักษณะพิเศษของตัวเอง และสามารถนำไปแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ สุรา ขนมจีน ไอศกรีม หรือขนมปัง เพื่อสร้างช่องทางการตลาดใหม่ ๆ และยังสามารถเพิ่มรายได้ ให้แก่เกษตรกรได้มากขึ้น
นายก อบจ.นครสวรรค์ กล่าวว่า “อย่างที่เคยบอกไว้ว่า น้ำเป็นเรื่องสำคัญมาก เนื่องจากพื้นที่ 6 ล้านไร่ ของจังหวัดนครสวรรค์เป็นพื้นที่การเกษตร อบจ.นครสวรรค์ จึงเน้นเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมาตั้งแต่ปี 2564 แม้ว่าจะลอกคลอง ขยายสระเก่า ทำฝาย ก็ยังไม่พอ เพราะว่าผลผลิตยังไปในช่องทางเดิม เราก็จะถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่แบบนี้ โดนกดราคา ไม่ได้ตามรัฐบาลกำหนด ไปไม่รอด ถ้าเราจะไปรอด ต้องแปรรูปเข้าไปตลาดอื่นบ้าง ราคาจากเดิมที่เราเคยทำอาจจะมากขึ้นหากว่าเรานำผลผลิตส่วนหนึ่งไปแปรรูป หาตลาดใหม่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพอีก ดังนั้นเราต้องต่อยอด ทำทุกวิถีทางเพื่อไปสู่ความมั่งคั่งเหมือนอาชีพอื่นบ้าง เราต้องเร่งรัดพัฒนาหลากหลายรูปแบบ ไม่ใช่วิถีเดิม ถ้าใครมีไอเดียใหม่สามารถบอกผ่านโรงเรียนชาวนา ช่วยกันคิด เผื่อเราจะหนีเส้นทางเก่าได้”
