เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมบุกตรวจค้นบ้านผู้ต้องหาและ วัดห้วยด้วนเร่งหาพยานหลักฐานเพิ่ม หลังอายัดเงินกว่า 60 ล้านบาทกับผู้ใกล้ชิด
วันที่ (1 ก.พ.65 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจ บก.ปคม. ตำรวจ บก.รฟ. ตำรวจ บก.ปอท. ตำรวจ บก.ทล. รวมกว่า 60 นาย ลงพื้นที่บ้านกลุ่มผู้ต้องหาและวัดธารทหารหรือวัดห้วยด้วน อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อตรวจค้นหาพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม รวมถึงตามอายัดทรัพย์กลุ่มผู้ต้องหาขบวนการทุจริตยักยอกเงินของวัดห้วยด้วน ไปเป็นของตนเอง มาดำเนินการตรวจสอบหาที่ไปที่มาของทรัพย์สินดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ได้อายัดเงินกว่า 60 ล้านบาทกับกลุ่มคนสนิทของหลวงพ่อพัฒน์ พร้อมเร่งตรวจสอบเส้นทาง
โดยก่อนหน้านี้เมื่อประมาณเดือนตุลาคม2564ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มลูกศิษย์ของพระราชมงคลวัชราจารย์(พัฒน์ปญุ ญกาโม) หรือ หลวงพ่อพัฒน์ ปญฺญกาโม เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน เข้าร้องทุกข์กับทาง บก.ปปป. ให้ช่วยตรวจสอบ กลุ่มไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วน และคนใกล้ชิด ที่มีอํานาจหน้าที่ดูแลรักษาจัดการทรัพย์สินของวัด หลังพบมีพฤติการณ์ต้องสงสัยทุจริตยักยอกเงินของวัดห้วยด้วน และมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจนิมนต์และการดูแลสุขภาพของหลวงพ่อพัฒน์ฯ พร้อมขอให้ตรวจสอบทรัพย์สินของบุคคลกลุ่มดังกล่าว
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. จะนำกำลังลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนพบว่าในช่วงระหว่างปี 2563-2564 มีประชาชนผู้ใจบุญนำเงินมาทำบุญมอบให้วัดเป็นเงินรวมกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้มีบางส่วนประมาณ 30-40 ล้านบาท ที่ทางวัดได้นำไปใช้ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม หรือ สร้างโรงเรียนให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่วนที่เหลือไม่ทราบว่าถูกนำไปใช้ทำอะไร จึงได้ตรวจสอบกลุ่มไวยาวัจกรและคนใกล้ชิดหลวงพ่อพัฒน์ คือ นายเสนาะ ทองปรอน, นางชัญญา เพชรสายบัว และนางบุญเชิด สุขจิตร อย่างละเอียด ก่อนพบหลักฐานที่แน่ชัดแล้วว่าทั้ง 3 ราย มีการนําเงินของวัดไปเข้าบัญชีในชื่อตนเอง รวมเป็นเงิน 63,034,470 บาท จึงได้อายัดเงินดังกล่าวนำกลับมาส่งมอบคืนให้กับ หลวงพ่อพัฒน์ พร้อมกับเชิญตัวบุคคลทั้ง 3 คนมาทำการสอบปากคำและดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมเร่งติดตามเงินส่วนที่เหลืออีกหลายสิบล้านบาทนำกลับมาคืนวัด ก่อนจะมีการสรุปสํานวนการสอบสวนส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาจนมีความเห็นให้ส่งคดีดังกล่าวกลับมาให้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
รณกฤต วรรันวรกุล จ.นครสวรรค์