อยุธยา-ช่างซ่อมรถเปลี่ยนอาชีพมาขนแรงงานต่างด้าว ถูก ตร.ทางหลวง และ ตม.จับกลางทางบนถนนสายเอเชีย

ตร.ทางหลวงบูรณการร่วมกับ ตม.และ ปทส.จับช่างซ่อมรถชาวนครปฐม ผันอาชีพมาลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเข้าเมืองผิดกฏหมาย

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ธัช โพธิ์สุวรรณ ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.อ.สำราญ กลั่นมา ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา,พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ

จนกระทั่งวันที่ ( 17 มี.ค.68 ) เวลาประมาณ 12.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ สวญ.ส.ทล.1กก.1บก.ทล.,ว่าที่ พ.ต.ท.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ สว.ส.ทล.1กก.1บก.ทล.,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์,ร.ต.อ.บุรพล เมืองซ้าย รอง สว.(ป)ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ด.ต.วิชัย ตามสมัย ,ด.ต.เตชัส แก้วมีศรี ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา นำโดย พ.ต.ต.ชานนท์ คำบุรี สว.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,ว่าที่ ร.ต.ท.อรชุน วรธนากร รอง สว.(สส.)ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,ด.ต.สิทธิชัย ศรีรัตนเพียร ผบ.หมู่.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา,ด.ต.นันทพัทธ์ บุญช่วย ผบ หมู่ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. นำโดย พ.ต.ท.สิทธิชัย เข็มกลัด สว.กก.1 บก.สส.สตม., ร.ต.อ.พฤฒิพงศ์ ทรงภักดีกุล รอง สว.กก.1 บก.สส.สตม. , ร.ต.ต ชูศักดิ์ ภู่อุ่น รอง สว.(สส) กก.1 บก สส. สตม., ด.ต.นัฐพงศ์รัตนา,จ.ส.ต.กฤษดา อนันทสุข ผบ.หมู่ กก.1 บก.สส.สตม.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. นำโดย ร.ต.อ.ก้องเพชร โกบุตร รอง สว.(ป) กก.2 บก.ปทส.,ร.ต.ต.ศรีไวย์ สุขอ่อน รอง สว.(ป)กก.2 บก.ปทส.,ร.ต.ต.ศักดา สถานพงษ์ รอง สว.(ป)กก.2 บก.ปทส.,ด.ต.สินธ์ สุขทอง,ด.ต.ธรรมนูล พลบำรุง ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปทส.

ได้สำรวจเส้นทาง พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ TOYOTA CAMRY สีดำ ทะเบียนหมายเลข ศง-1308 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมาลักษณะติดฟิล์มมืดทึบขับขี่เปลี่ยนช่องทางกระทันหันมีเหตุอันควรต้องสงสัย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟสั่งให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.2-3 ถนนสายเอเชีย(ขาเข้า) ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเพื่อทำการขอตรวจสอบ

เบื้องต้นสอบถามชื่อนายพิสิษฐ์ เกิดโพชา อายุ 61 ปี ชาว ต.ดอนแฝก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เป็นผู้ขับขี่ จากนั้นตรวจสอบภายในรถยนต์พบว่ามีบุคคลที่นั่งโดยสารเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจำนวน 3 คนเป็นชาย 2คนหญิง 1 คน จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นใดที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง แต่ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดมาแสดง ซึ่งนั่งโดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว

นายพิสิษฐ์ฯ คนขับให้การยอมรับว่า เดิมตนเป็นช่างซ่อมรถยนต์ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีงานซ่อมรถจึงขาดรายได้ จนกระทั่งวันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 21.30 น. น.ส.วิภาพร ศรีเพ็ง อายุ 51 ปีได้รับการติดต่อตนผ่านทาง Facebook Messenger ชื่อ เอ๋ ศรีเพ็ง ว่าจ้างให้ขับรถไปรับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 3 คน จากบริเวณอู่ซ่อมรถ เชาวลิตรการช่าง แยกนครชุม ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ ซ.บางปู 75 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยได้ตกลงค่าจ้างกัน 3,000 บาท ต่อต่างด้าว 1 คน โดยจะได้รับเมื่อทำการส่งคนต่างด้าวถึงที่หมายเรียบร้อยแล้วและจะจ่ายค่าจ้างผ่านบัญชีธนาคาร โดยไม่เคยเจอตัวผู้ว่าจ้างแต่อย่างใด ยอมรับว่าบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และรู้ดีว่าแรงงานต่างด้าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับกุมได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่ “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ส่วนบุคคลต่างด้าวทั้ง 3 คนในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”