วันที่ (22 เม.ย.65 ) เฟสบุ๊คชื่อ บ้านครูกันต์ สอนพิเศษ ปทุมธานี ได้โพสต์ข้อความที่อ่านแล้วทราบว่าเป็นการระบายความในใจที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและปรับภูมิทัศน์ บริเวณ ม.4 ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี.ที่ทำให้บ้านได้รับความเสียหาย จนไม่สามารถพักอาศัยอยู่ภายในบ้านตนเองได้จากการตรวจสอบทราบว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นบริเวณจุดก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและปรับภูมิทัศน์บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าวัดสามัคคียาราม ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบมีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและปรับภูมิทัศน์ ที่คาราคาซังยังไม่แล้วเสร็จสิ่งปลูกสร้างเกิดการชำรุดทรุดลงไปภายในแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้ยังพบน.ส.กันต์กษิษฐ์ โพธิ์เงิน อายุ 43ปี หรือครูกันต์และเป็นเจ้าของผู้ที่ใช้ชื่อเฟสบุ๊ค บ้านครูกันต์ สอนพิเศษ ปทุมธานี ครูโรงเรียนเอกชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างจนบ้านพักไม่สามารถพักอาศัยอยู่ได้ ต้องไปเช่าบ้านอยู่นอกจากนี้สิ่งของบางส่วนต้องนำไปฝากไว้ที่ศาลางวัดสามัคคียาราม
น.ส.กันต์กษิษฐ์ โพธิ์เงิน หรือครูกัณต์เปิดเผยว่า เมื่อปลายปี2562มีโครงการการก่อสร้างเชื่อนป้องกันตลิ่งและปรับภูมิทัศน์บริเวณหน้าวัดสามัคคียาราม ม.4 ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี. เป็นโครงการของจังหวัดปทุมธานีและกรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นผู้ดูแลโดยใช้งบประมาณกว่า23ล้านบาท โดยมีการจ้างบริษัทเอกชนเข้ามาทำการก่อสร้าง ก่อนจะเริ่มทำการก่อสร้างโดยเหตุการณืแรกเกิดขึ้นวันที่ปั้นจั่นมาจอดอยู่ได้เกิดโค่นล้มทับบ้านตนเองคืนวันที่3 กันยายน2563 จนบ้านตนเองได้รับความเสียหายโชคดีที่ตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บหนีออกมาได้ ก่อนจะเกิดการเจรจากันกับทางบริษัทก่อสร้างซึ่งการซ่อมแซมล่าช้ามาก จึงต้องเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ก็ไม่มีความคืบหน้า จากนั้นตนเองจึงนำเรื่องไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปทุมธานีจากนั้นจึงมีเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองติดต่อเข้ามาการดูแลการซ่อมแซม
จากนั้นให้หลังมา3เดือนเกิดดินสไลด์ตัวเนื่องจากเขื่อนที่มีการก่อสร้างเกิดพังลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนที่ตัวบ้านตนเองจะไหลตามไป จากนั้นตนเองจึงโทรติดต่อไปที่โยธิการและผังเมืองจึงลงพื้นที่มาดู โดยโยธิการและผังเมืองให้เหตุผลว่าอาจจะต้องรื้อบ้านบางส่วนเพื่อรักษาส่วนที่ดีไว้ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่นำช่างเช้ามากับรื้อจนพังทั้งหลังสิ่งของที่ตนเองเก็บไว้ในบ้านส่วนที่ดีก็ได้รับความเสียหายทั้งหมดรวมทั้งรูปพ่อแม่ตนเองยังถูกโยนทิ้งแบบไม่แยแส จากนั้นทางโยธาธิการได้เรียกประชุมและมีการลงบันทึกข้อตกลงวันที่ 15 กันยายน2564 เรื่องการตกลงซ่อมแซมบ้านกับบริษัทเอกชนว่าจะมีการซ่อมแซมให้เมื่อสภาพชั้นดินหยุดการเคลื่อนตัวก็ตกลงไป จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีการซ่อมแซมหรืออะไรเลยติดต่อไปก็เงียบจนกระทั่งเดือนมีนาคม2565 ตนเองได้โทรไปหาโยธิการและผังเมืองท่านหนึ่งพื่อถามถึงความคืบหน้าโดยโยธาระบุว่า ครูกันต์จะไม่สามารถอยู่ในจุดนี้ได้แล้วเพราะดินอ่อนมาหรือปลูกไปดินจะพังอีกหรือได้รับอันตราย ตนเองจึงอยากถามว่าจุดนี้เป็นที่ดินวัดที่ชาวมอญอยู่กันมายาวนานมากกว่า50ปี โดยทางเจ้าอาวาสก็ยินดีให้อยู่วันดีคืนดีจะให้ตนเองไปอยู่ที่อื่น โดยโยธาธิการและผังเมืองตีราคาให้แปดแสนบาทตนเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะอยากให้จบเรื่องและทำใจไว้แล้วว่าถ้าเป็นเช่นนั้นก็พร้อมออกทันที แต่ทุกวันนี้ไม่มีการซ่อมแซมและไม่ปลูกให้ใหม่แถมยังบอกให้ตนเองไปฟ้องร้องเอาเองมันใช่เรื่องหรือไม่เพราะบ้านตนเองอยู่ดีๆคุณมาทำบ้านเราพัง ทั้งนี้เพื่อนบ้านอีกหลังซึ่งเป็นบ้านคอนกรีต2ชั้นก็ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้สำหรับโครงการ สร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งและปรับภูมิทัศน์ตามสัญญามีการเริ่มสัญญาวันที่23 กรกฎาคม2562 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 8มกราคม2564ค่าก่อสร้างกว่า23ล้านบาท ทุกวันนี้ก็ยังคาราคาซังไม่แล้วเสร็จ
ทั้งนี้วานนี้ตนเองยังโชคดีที่วานนี้ตนเองได้เดินทางไปที่ศาลากลางปทุมธานีเพื่อจะยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม แต่กับเจอผวจ.ปทุมธานี จึงนำเอกสารและหลักฐานที่ตนเองมียื่นให้ทางผวจ.ปทุมธานีกับมือโดยหวังว่าทางผวจ.ปทุมธานี จะเป็นที่พึ่งของประชาชนไม่ใช้ให้ประชาชนต้องไปดำเนินเรื่องฟ้องร้องเองอีก เพราะนอกจากจะต้องเสียเงินแล้วยังต้องมาเสียสุขภาพจิตดังเช่นทุกวันนี้อีก
อนันต์ วิจิตรประชา จ.ปทุมธานี