ผู้ใหญ่บ้านสาวสวยใจแกร่ง แต่ต้องใจสลาย เมื่อสามีสุดรักจดทะเบียนสมรส ที่อยู่กินร่วมทุกข์สุข กันมากว่า 4 ปี แอบดอดหาแม่ไปให้ไปสู่ขอหญิงอื่น โดยสามีสุดแซบกรุเรื่องราวกับตนว่าไปแต่งพี่ชาย กลับบ้านลุกลี้ลุกลน จนพบหลักฐานงานแต่งสามีกับหญิงอื่น หัวใจแทบสลาย ตัดสินใจยิงคำถามทำไมพี่ถึงทำเช่นนี้กับหนู เจอคำตอบ “สันดานพี่เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง หมู่ที่ 5 บ้านหัวลำ อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี เพื่อพบกับน.ส.ปาริชาติ หรือ ผู้ใหญ่แอน ด้วงมูล อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งได้เปิดเผยนำหลักฐานการจดทะเบียนสมรส ภาพคู่ที่หวานซึ้ง มาให้กับผู้สื่อข่าวดู พร้อมทั้งได้เปิดเผยเรื่องราวที่ชาวเซียลกำลังให้ความสนใจ หลายพันคนให้กำลังใจตนซึ่งเป็นผู้เสียหายโดยตรง กับสิ่งที่สามีตนเองได้กระทำลงไปอย่างเหลือเชื่อ เริ่มต้นผู้ใหญ่แอนเล่าว่าตนเองและนายสัญญา ตันทะตุ่น อายุ 42 ปี สามีต่างคนต่างเป็นพ่อม่ายแม่ม่ายมาด้วยกัน ซึ่งต่างมีเรือพ่วงมาคนละลำ เราสองคนได้มาพบกัน เมื่อประมาณต้นปี 2560 และคบหาดูใจกันมาประมาณ 7-8 เดือน เมื่อความรักสุกงอม จึงได้ตัดสินใจแต่งงานกันในปี 2561 และจดทะเบียนสมรสกันที่ อ.วังม่วง จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา
ผู้ใหญ่แอนเล่าต่อว่า สองคนไว้เนื้อเชื่อใจกันมาตลอดระยะเวลา ซึ่งสามีทำงานต่างจังหวัด โดยจะเจอกันอาทิตย์ละ 2 ครั้ง คือวันเสาร์และอาทิตย์ และวันหยุดต่างๆ ซึ่งสามีทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการเกษตร จะต้องเดินทางออกต่างจังหวัดบ่อย และลูกสาวสามีวัย 15 ปี ต้องเรียนต่างอำเภอ สามีจำเป็นต้องกลับไปดูแลบ้างตามสมควร แต่เราก็คุยโทรศัพท์และวิดีโอคอลพูดคุยกันแทบจะทุกวันจนเป็นเรื่องปกติ ซึ่งตนเองก็ยังชื่นชมในความเป็นพ่อ ที่เอาใจใส่ดูแลลูกตัวเองและลูกของเราด้วยดีมาตลอด
จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2564 ปีที่ผ่านมา สามีก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ค่อยกลับบ้าน จากได้คุยกันทุกวันก็อ้างว่ารับผิดชอบงานมากขึ้น ไม่มีเวลา และเหนื่อยจากการทำงาน ซึ่งแรกๆ ก็สงสาร เห็นใจ คิดว่าคงจะเหนื่อยกับงานจริงๆ และมาเริ่มตนรู้สึกสงสัยเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ทุกปีที่อยู่ด้วยกันสามีของตนได้โบนัสมาเท่าไรก็จะนำมามอบให้ตนจนหมดทุกบาททุกสตางค์ ซึ่งตนเองจะเป็นผู้ดูแลการใช้จ่ายแต่ว่าในปีนี้กลับไม่มี ถามก็บอกว่าปีนี้บริษัทยังไม่จ่าย ซึ่งตนเองก็ไม่ได้หวังเงินส่วนนี้ ซึ่งทางบ้านทางครอบครัวตนเองก็มีฐานะความเป็นอยู่ที่ไม่ลำบาก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2565 จากความสงสัยเคลือบแคลงใจก็เริ่มมีเค้าลาง เมื่อสามีโทรมาหาบอกกับตนว่าจะไปรับแม่ พี่ชาย และพี่สะใภ้ ที่จังหวัดสุโขทัย เพื่อที่จะนำพาพี่ชายและพี่สะใภ้ที่อยู่กินกันมานานแล้ว ไปผูกข้อต่อแขน เสียผี ตามประเพณีทางเหนือที่ จ.พะเยา ซึ่งเป็นบ้านของพี่สะใภ้ ตนเองยังถามไปว่าแล้วทำไมไม่มารับด้วย จะได้เดินทางไปแสดงความยินดีพร้อมกัน สามีบอกว่าบอกว่าตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ลุกลามไปหลายจังหวัด กลัวว่าตนเองจะมีความเสี่ยง อยู่ที่บ้านนี่แหละจะรีบเดินทาง ว่างแล้วจะโทรหา
หลังจากนั้นประมาณ 23.00 น. วันที่ 8 ม.ค.65 สามีถึงพะเยา ได้ลงโลเคชั่นบ้านพี่สะใภ้ มาให้ตนดู ตนคิดว่าเป็นเรื่องจริงไม่ได้โกหก ด้วยความที่ไม่ได้ไปอวยพรงานพี่ชายสามี จึงได้ขอเลขบัญชีและพี่สะใภ้ โดยโอนเงินใส่ซองแสดงความยินดีไป 1,000 บาท โดยเช้าวันที่ 9 ม.ค.65 ตนเองได้พยายาม โทรสอบถามถึงความสุขของบ่าวสาว แต่ก็ถูกปฎิเสธ ซึ่งสามีอ้างว่ารับแขกแทนพี่ เสียงดังมาก และเมาแล้วด้วย เสร็จงานแล้วจะโทรหานะ แต่ก็ไม่โทรหาได้แต่พิมพ์ข้อความมาทางไลน์เพียงเล็กน้อย ซึ่งตนเองก็ไม่เซ้าซี้
จนเมื่อวันที่ 13 ม.ค.65 สามีของตนได้เดินทางกลับบ้านมา ทำตัวปกติ และยังได้เดินทางไปเที่ยวด้วยกันอย่างสนุกสนาน ล่าสุดเมื่อวัน 23 ช่วงเย็นได้ เห็นสามีพกโทรศัพท์มาอีกเครื่อง โดยอ้างว่าเป็นของลูกสาว จังหวะที่สามีเข้าห้องได้กดสุ่มรหัสผ่านโทรศัพท์เครื่องใหม่ โดยเดาเอาวันเดือนปีเกิดของสามี สุดท้ายเปิดเครื่องได้ด้วยความสงสัยมานานจึงได้ไปที่แอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก พบว่าไม่ใช่เฟซบุ๊กของสามี พบมีสองเฟซบุ๊ก ตนจึงดูที่แชทพบว่ามีการพูดคุยกับหญิงสาวคนหนึ่ง คล้ายผัวเมียกัน มีการโอนเงินให้กันและกันครั้งละหลายพันบาท โดยผู้หญิงบอกว่าท้องแล้ว และที่ทำให้โทรศัพท์แทบหลุดจากมือคือภาพรูปงานแต่งงาน โดยเจ้าบ่าวคือสามีของตนเอง เจ้าสาวหน้าตาสะสวยชาวจังหวัดพะเยา ทำให้รู้ทันทีว่าตนถูกหลอกอย่างจัง ตัวสั่นจนทำอะไรไม่ถูกตั้งสติ พยายามยิงคำถามด้วยหัวใจสลาย “ที่บอกไปงานแต่งพี่ชายคือไปแต่งงานเองใช่ไหม ทำไมถึงทำแบบนี้” กลับได้คำตอบว่า “สันดานพี่เป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่แอนไม่รู้เอง” ซึ่งตนเองอึ้งกับคำตอบอยู่นาน พยายามข่มใจ และตั้งสติ ระงับอารมณ์ บอกสามีให้กลับบ้านตัวเอง และได้ยึดโทรศัพท์ทั้งสองเครื่อง เก็บไว้เป็นหลักฐาน รวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งให้ทนายเพื่อทำการฟ้องร้อง ทั้งสามีและเจ้าสาวใหม่ ตนจะไม่ให้อภัยเนื่องจากหลอกกันเป็นทีม จะขอต่อสู้ทวงสิทธิของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ถูกคนรักในคราบวายร้ายทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งจะปรึกษาว่าจะฟ้องใครได้บ้าง แต่อยากจะบอกว่าคุณเป็นผู้ชายไม่ควรทำแบบนี้กับผู้หญิง ไม่ว่าเราและเขา จะขอเดินหน้าฟ้องร้องให้ถึงที่สุด
กฤษณ์ สนใจ จ.ลพบุรี