สระบุรี-ลูกค้าชมไม่ขาด นุ่น ขนมครกยกถาดใส้ทะลักและบ้าบิ่นครก

จากปากต่อปากลูกค้าชื่นชม ความหอมหวาน กลมกล่อม กรอบ อร่อย จนมีลูกค้าขาประจำและขาจร ที่ทราบข่าว ว่า ที่บริเวณ 4 แยกโรงไม้ ข้างกำแพงวัดพระพุทธบาท ริมถนนท้ายพิกุล ต.พระพุทธบาท จ.สระบุรี มีร้านขายขนมครก ชื่อ นุ่นขนมครกยกถาดใส้ทะลักและบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อนข้าวเหนียวดำ ที่ขึ้นชื่อเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง

วันที่ (11 ธ.ค.66)  ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปสัมผัสถึง ความหอมหวาน กลมกล่อม กรอบ และรสชาติอร่อย ว่าเป็นจริงตามคำเล่าลือจริงหรือไม่ ที่ร้าน นุ่นขนมครกยกถาดใส้ทะลักและบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อนข้าวเหนียวดำ พบกับ นางสาวอิสราภรณ์ แตงเจริญ นุ่น อายุ 33 ปี พร้อมด้วยสามี ช่วยกันอย่างขมีขมัน อีกคนนึงหยอด อีกคนนึงตัด ทั้ง 6 เตา สลับกันไป มีโรยหน้าด้วย ต้นหอม มะพร้าว ข้าวโพด เผือก ฟักทอง มันม่วง ฝอยทอง แล้วยกออกจากเบ้าทั้งแผ่น กลิ่นไอหอมฟุ้ง จนต้องกลืนน้ำลาย โดยเฉพาะขนมครกยกถาดใส้ทะลัก อันนี้เรียกได้ว่าขึ้นชื่อของทางร้าน ลูกค้าที่มาสั่งมักจะใช้แทนขนมเค้กวันเกิดให้กับลูกๆหลานๆ     นอกจากนี้ยังมีบ้าบิ่นมะพร้าวอ่อนข้าวเหนียวดำ ใส่ในเบ้าขนมครก ที่มีรสชาติอร่อยไม่แพ้ขนมครก ลูกค้าขาประจำและขาจรจะต้องสั่งซื้อควบคู่กันไป โดยมีราคา กล่องเล็ก 25 บาท กล่องใหญ่ 30 บาท และยกถาด 75 บาท ร้านเปิดขายตั้งแต่ 06.00 น. ถึง 09.00 น.จะหยุดทุกวันพุธ


นางสาวอิสราภรณ์ แตงเจริญ หรือ นุ่น (เจ้าของร้าน) เล่าว่า ตนเองขายขนมครกมาได้ประมาณ 5 ปี กว่าแล้ว ขนมครกมีหน้าข้าวโพด ต้นหอม มะพร้าว เผือก ฟักทอง แล้วก็ฝอยทอง มีทั้งหมด 7 หน้า และมีแบบยกถาดด้วย ทางร้านเรายังมีเป็นขนมบ้าบิ่นครกด้วย ซึ่งตัวนี้ใช้มะพร้าวอ่อนทำ เป็นมะพร้าวน้ำหอม-น้ำหวาน แป้งข้าวเหนียวดำ ที่ร้านจะขายขนมทั้งหมดสองอย่าง มีขนมครกแล้วก็ขนมบ้าบิ่น แต่เป็นบ้าบิ่นในครก

จุดเริ่มต้นของการมาขายขนมครกคือทีแรก ขายข้าวแต๋นหรือขนมนางเล็ด แล้วมาเจอพิษโควิดเขาห้ามข้ามเขต ก็เลยไปขายในตลาดนัดไม่ได้ ก็เลยต้องเลิกทำขนมข้าวแต๋นไป ช่วงนั้นเลยไม่รู้จะทำอะไรต่อไป ซึ่งขณะนั้นพี่สาวขายขนมครกอยุ่ก่อนหน้าแล้วเห็นว่าตนเองยังไม่มีอะไรทำเขาก็เลยยกให้ ก็เลยมาขาย

อุปสรรคแรกๆที่พี่สาวยกให้ก็คือ สูตรแป้งกับน้ำกะทิยังไม่เข้าที่ เราก็มาทำครั้งแรกที่มาขายคือขายไม่ดี ขายได้วันนึงไม่ถึง 20 กล่อง ต่อมาจึงพัฒนาสูตรอยู่เป็นปี กว่าจะเข้าที่ก็ทิ้งไปเยอะ ก็ลองผิดลองถูกไปเยอะเหมือนกัน เป็น 100 กิโลเห็นจะได้ ทั้งกะทิทั้งแป้งอย่างละ 100 กิโล พัฒนาไปด้วยแล้วก็ขายไปเรื่อยๆ จนเข้าสู่ปีที่ห้า ผลตอบรับดีมาก ลูกค้าก็จะมาซื้อเรื่อยๆ วันละ 100 กล่องถึง 120 กล่อง ประมาณนี้

อยากจะบอกเพื่อนๆที่ร่วมอาชีพค้าขายเหมือนกันว่าให้อดทน มันไม่ได้ง่ายเหมือนอย่างที่เราคิด บางอาชีพเรามาว่ามันง่ายแต่มันไม่ได้ง่ายเลย และอีกอย่างนึงก็คือ เราต้องซื่อสัตย์กับลูกค้าไม่ว่าจะต่อหน้าและลับหลัง เราต้องมีความจริงใจ เราต้องทำของที่เราอยากจะกิน ถึงแม้ลูกค้าจะไม่ได้เห็นในสิ่งที่เราทำ แล้วเราจะทำยังไงก็ได้ เราต้องต้องรักษาความสะอาดให้ถูกหลักอนามัยด้วยค่ะ

เกียรติยง อัศวราศี จ.สระบุรี  

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

ปัตตานี-ชายเเดนใต้จัดยิ่งใหญ่เเน่!! งาน Doi Inthanon Thailand by UTMB 2023 จ.เชียงใหม่

งาน Doi Inthanon Thailand by UTMB 2023 จ.เชียงใหม่ […]

You May Like

Subscribe US Now