วันที่ ( 24 พ.ย.64 )นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผอ.โครงการชลประทานพิจิตร ลงพื้นที่ไปที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองท่าหลวง ซึ่งเป็นคลองที่รับน้ำมาจาก ต.ปากทาง ต.ป่ามะคาบ ต.ท่าฬ่อ ต.ท่าหลวง และน้ำจากเขต ต.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้สืบเนื่องจากมีชาวนาประมาณ 8-10 ราย อ้างว่าตนมีพื้นที่นาอยู่บริเวณทุ่งหนองบัว หมู่ 1 ต.ปากทาง ซึ่งอยู่หลังที่ทำการ อบต.ปากทาง เป็นที่ลุ่มต่ำและทุกวันนี้น้ำยังท่วมขังจึงอยากจะทำนาปรัง จึงรวมตัวกันร้องทุกข์และกดดันขอให้ชลประทานพิจิตรช่วยเปิด ประตูระบายน้ำท่าหลวง ระบายน้ำทิ้งลงสู่แม่น้ำน่าน
โดยการดำเนินการดังกล่าวต้องยอมรับว่าไม่ได้ผ่านมติของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งมี นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าฯพิจิตร เป็นประธานและมีตัวแทนชาวนาเป็นกรรมการ แต่เหตุที่ชลประทานพิจิตรต้องยอมเปิดประตูระบายน้ำคลองท่าหลวงขึ้น 20 ซม. แต่ก็เพื่อลดการกระทบกระทั่ง จึงต้องยอมเปิด ปตร.ดังกล่าวซึ่งหลังจากนี้จะรีบเร่งนำเรื่องดังกล่าวนำเรียน ผู้ว่าฯพิจิตร เป็นประธานและมีตัวแทนชาวนาเป็นกรรมการ ว่าจะมีมติเช่นไร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้จังหวัดพิจิตรพื้นที่ทางด้านฝั่งตะวันออกที่ติดกับ จ.พิษณุโลก จ.กำแพงเพชร ซึ่งประกอบด้วยฝั่งซ้ายแม่น้ำน่านได้มีการดำเนินการปิดประตูระบายน้ำในทุกจุดแล้วทั้งนี้เพื่อกักเก็บน้ำให้พร้อมรับมือฤดูแล้งที่กำลังคืบคลานเข้ามา รวมถึงน้ำที่มีน้ำนอนทุ่งก็ขอให้เก็บไว้ก่อนเพื่อให้น้ำเป็นน้ำซึมน้ำซับลงสู่ใต้ดินและจะได้สร้างความชุ่มชื้นเมื่อถึงเวลาที่ต้องการทำนาปรังก็จะได้มีน้ำใต้ดินให้สูบขึ้นมา ดังนั้นการเปิดประตูระบายน้ำเพื่อระบายน้ำทิ้งเช่นนี้อาจส่งผลร้ายในระยะยาว
สิทธิพจน์ เกยุ้ย จ.พิจิตร