สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.อ่างทอง ,จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ปทุมธานี อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา),ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(อ่างทอง) สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ และประสานงานบูรณาการร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพระนครศรีอยุธยา
จนกระทั้งวันนี้ ( 9 พฤศจิกายน 2566 ) เวลาประมาณ 13.20 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ว่าที่ ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์,ว่าที่ ร.ต.อ.ธีระยุทธ วันโสภา รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.,ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(อ่างทอง) นำโดย ร.ต.ท.วีรกิต พันธุ์ไชยศรี รอง สว.(ป) ส.ทล.6 กก.1บก.ทล.,ด.ต.ธวัชพงศ์ เชษฐ์ทวีโชตน์ ผบ.หมู่.ส.ทล.6 กก.1บก.ทล. ชุดจับกุม ได้สำรวจเส้นทาง บริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพบรถยนต์นั่งสองตอนแวน ยี่ห้อ ISUZU MU-7 สีเทา ทะเบียน ชว-1135 กรุงเทพมหานคร ขับขี่ผ่านมา โดยมีน้ำหนักผิดปกติ เจ้าหน้าจึงส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่เมื่อรถคันดังกล่าวพบเห็นรถยนต์ตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับติดตามมากลับเร่งความเร็ว ขับหลบหนีไปตามถนนสายเอเชีย ในขณะที่มีรถยนต์ของประชาชนผู้สัญจรไป-มาจำนวนมาก แซงซ้ายแซงขวารถกะทันหันไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นสร้างความตื่นตระหนกตกใจรวมถึงอาจทำให้เกิดอันตราย โดยระหว่างทางได้ขับเฉี่ยวชนรถยนต์ตรวจการของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้รับความเสียหาย
จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.35 ถนนสายเอเชีย ทล.32 ต.ขวัญเมือง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทางที่ขับหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 12 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ โดยผู้ขับขี่ไม่ยอมเปิดประตูให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังจะพยายามจะขับหลบหนีเดินหน้าและถอยหลัง ต่อมาผู้ขับขี่ได้ยอมเปิดประตูรถยนต์และพยายามดิ้นรนต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนศีรษะของผู้ขับขี่ได้โดนกับขอบประตูรถยนต์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบถามเบื้องต้นชื่อ นายกุลกิตติ์ แซ่จ๊ะ อายุ 20 ปี อยู่บ้าน เลขที่ 126/1 หมู่ที่ 11 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์นั่งสองตอนแวน ยี่ห้อ ISUZU MU-7 โดยมีผู้โดยสารจำนวน 11 คน นั่งโดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญคนขับพร้อมผู้โดยสารที่มากับรถยนต์คันดังกล่าว มาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ ที่ สภ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพระนครศรีอยุธยา นำโดย ร.ต.ท.วิชัย ท้าวทอง รอง สว.(สส) ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา ด.ต.สิทธิชัย ศรีรัตนเพียร ผบ.หมู่.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา พบว่า ผู้ที่โดยสารมากับรถคันดังกล่าวเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
จากการสอบถามนายกุลกิตติ์ แซ่จ๊ะ คนขับรถ ให้การยอมรับว่า วันนี้ (9 พฤศจิกายน 2566) เวลาประมาณ 08.00 น. ได้รับการประสานจากชายเมียนมา (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ประสานงานให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่บริเวณ อ.วังเจ้า จ.ตาก จำนวน 11 คน เพื่อไปส่งในพื้นที่ปลายทาง ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ปทุมธานี โดยได้รับค่าจ้าง 16,500 บาท/ครั้ง นายกุลกิตติ์ แซ่จ๊ะ ยอมรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 11 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ พึ่งทำเป็นครั้งแรก ส่วนเงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวเตร่ และใช้จ่ายต่างๆ
จากการสอบถามบุคคลต่างด้าว ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 15,000-20,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหานายกุลกิตติ์ แซ่จ๊ะ คนขับรถ “1.รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ,2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ,3.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรฯ,4.ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่” ส่วนผู้โดยสารซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว ฐาน “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ควบคุมตัวพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป