วันที่ (11 ต.ค.66) นายสิงหราช วงษ์เสงี่ยม รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตรที่เกิดจากฝนตกหนักในช่วง 5-7 วันที่ผ่านมา ประกอบกับมีมวลน้ำจากภาคเหนือและจากจังหวัดรอบข้าง คือ จ.พิษณุโลก จ.เพชรบูรณ์ จ.สุโขทัย ไหลเข้ามายังแม่น้ำยม-แม่น้ำน่าน จึงทำให้ระดับน้ำมีปริมาณสูงขึ้นอยู่ต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 1 เมตรเศษเท่านั้น ทำให้บ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่มต่ำของแม่น้ำทั้งสองสาย บ้านเรือนถูกน้ำท่วมดังนั้นจึงได้ออกประกาศจังหวัดพิจิตรลงวันที่ 11 ต.ค. 66 ที่ พจ 0021/12716 ประกาศให้พื้นที่ 10 อำเภอ 26 ตำบล 92 หมู่บ้าน น้ำเข้าท่วมใต้ถุนบ้านพักอาศัย 1,264 หลัง นาข้าว 10,393 ไร่ บ่อปลา 13 บ่อ เป็นพื้นที่สาธารณภัย/ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินบ้านเรือนพื้นที่การเกษตร ฯลฯ
ดังนั้นเพื่อประโยชน์ในการจัดการสาธารณภัยฯลฯ และการให้ความช่วยเหลือประชาชนจึงให้อำเภอมีอำนาจใช้งบว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินได้ในวงเงิน 500,000 บาท ส่วน อบต.-เทศบาล ก็สามารถใช้งบประมาณเพื่อการช่วยเหลือราษฎรได้ด้วยเช่นกัน สำหรับเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินของจังหวัดพิจิตรก็ยังมีเม็ดเงินอยู่อีก 13 ล้านบาท ในส่วนของการเยียวยาผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สนง.ปภ.พิจิตร ก็กำลังเร่งจัดซื้อถุงยังชีพจำนวน 3,000 ชุด คาดว่าในวันที่ 13-14 ต.ค. 66 นี้ก็จะพร้อมลงพื้นที่แจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัยดังกล่าว
ในส่วนของพื้นที่เศรษฐกิจ ดร.สุรพล เตียวตระกูล นายกเทศมนตรีเมืองพิจิตร ก็ได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 8 จุด เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือฝนที่ตกลงมาเพื่อที่จะได้สูบน้ำลงสู่แม่น้ำน่านเพื่อไม่ให้ท่วมตลาด-ธนาคาร-โรงพยาบาล และเส้นทางคมนาคมภายในชุมชนเมืองพิจิตรอีกด้วย
นอกจากนี้ นายบรรลือศักร ปิ่นจันทร์ ผอ.สถานีอุตุนิยมวิทยาพิจิตร ก็ได้ให้ข้อมูลว่าในเขตพื้นที่พิจิตรจะมีฝนตกน้อยลงและจะมีฝนตกอีกครั้งในช่วงระหว่างวันที่ 17-19 ต.ค. 66 แต่จะมีฝนตกหนักในวันที่ 18 ต.ค. 66 โดย จ.พิจิตร จะเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงเดือน ต.ค. 66 นี้
สิทธิพจน์ เกบุ้ย จ.พิจิตร