วันที่ (6 ส.ค.66) นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานพิธีในการต้อนรับ คณะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม นำโดยนายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม พร้อมด้วยผู้ประกอบการและสื่อมวลชนจังหวัดสมุทรสงครามและสมุทรสาครประมาณ 15 คน ที่เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายข้ามภูมิภาค “โครงการ The Link Local to Global : Domestic to Domestic” ภายใต้แนวคิดการนำวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 5 F (Food, Film, Fashion, Fighting, Festival) ที่เป็น Soft Power ของไทย โดยใช้ชื่อเส้นทาง “จากปลาทู สู่รากชูเชียงราย” ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม 2566 เชื่อมโยงจังหวัดสมุทรสงครามและจังหวัดเชียงราย ให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างกัน
นายสมหวัง บุญระยอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในนามจังหวัดเชียงรายยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คณะจากจังหวัดสมุทรสงครามและสมุทรสาครได้เดินทางมาเยือนเชียงรายตามโครงการ The Link Local to Global : Domestic to Domestic” จากปลาทู สู่รากชูเชียงราย” ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม 2566 ถ้าหากจะกล่าวถึงจังหวัดเชียงรายแล้วละก็มีอายุ 760 ปี แล้ว มากกว่าจังหวัดเชียงใหม่ถึง 34 ปี มีความหลากหลายในหลายๆด้านเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่นด้านวัฒนธรรม ด้านธรรมชาติ ด้านภูมิศาสตร์ที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านถึง / ประเทศ ทั้งเมียนมาและ สปป.ลาว และยังเป็นประตูไปสู่ประเทศจีน ด้านประชากรที่มีความหลากหลายทางด้านชาติพันธุ์ที่มีมากกว่า 30 ชาติพันธุ์ แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวหลายล้านคนมาเที่ยวยังจังหวัดเชียงราย เชื่อว่าการที่คณะของท่านได้อยู่ในจังหวัดเชียงราย 4 วัน 3 คืน ท่านจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ร่วมไปถึงได้สัมผัสสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย อาทิ ดอยช้าง สวนตุง ไร่ชา ร่องเรือแม่น้ำโขงสัมผัสบรรยากาศ 3 แผ่นดิน เมืองเก่าเชียงแสน นอกจากนี้จังหวัดเชียงรายยังเป็นเมืองศิลปิน ท่านสามารถสัมผัสศิลปะของท่านอาจารย์เฉลิมชัยที่วัดร่องขุน, ที่วัดฟ้าร่องเสือเต้น โดยลูกศิษย์ท่านอาจารยฺเฉลิมชัย, อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ที่วัดดำ
การที่จังหวัดเชียงรายมีศักยภาพด้านงานศิลปะแห่งหนึ่ง จนได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพ “มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ ไทยแลนด์เบียนนาเล่ เชียงราย 2023 (Thailand Biennale, Chiangrai 2023) ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2566-เมษายน 2567 ต่อจากจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดกระบี่ สุดท้ายขอให้โครงการThe Link Local to Global : Domestic to Domestic” จากปลาทู สู่รากชูเชียงราย”ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ทุกประการและมีนักท่องเที่ยวทั้งสามจังหวัดมีการเดินทางท่องเที่ยวข้ามภูมิภาคต่อกันซึ่งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเกิดรายได้จากการท่องเที่ยวอีกด้วย
นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม กล่าวว่าการดำเนิน “โครงการ The Link Local to Global” มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวเชื่อมโยงพื้นที่ Domestic to Domestic ในลักษณะการจับคู่จังหวัดร่วมขายหรือคู่ค้า เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ได้รับการพัฒนาและยกระดับคุณภาพมาตรฐาน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ ภายใต้แนวคิดการนำวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ (5F : Food) ที่เป็น Soft Power ของไทย โดย ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม ร่วมกับ ททท. สำนักงานเชียงราย นำเสนอการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) เชื่อมโยงเรื่องราวและสัมผัสประสบการณ์อาหารท้องถิ่น ด้วยเมนูปลาทูแม่กลอง “หน้างอ คอหัก” แห่งจังหวัดสมุทรสงคราม ราชาแห่งปลาทู สุดยอดปลาทูไทยที่ได้รับการยอมรับในรสชาติความอร่อยแบบพิเศษเฉพาะตัว จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย (GI) ของสมุทรสงคราม รังสรรค์ออกมาเป็นเมนูฟิวชั่นรวมกันระหว่างอาหารทะเลที่มีคุณค่าจากปลาทูแม่กลอง และอาหารวัฒนธรรมชาวอาข่าจาก “รากชู” ซึ่งมีความโดดเด่นและเป็นอัตลักษณ์ ทั้งในเรื่องของวัตถุดิบที่สดใหม่จากธรรมชาติของชาวอาข่า และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวอาข่าออกมาได้โดดเด่นไม่เหมือนใคร มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงราย เป็นเมนู “น้ำพริกรากชูปลาทูแม่กลอง” เชื่อมโยงเป็นเส้นทางท่องเที่ยว “จากปลาทู สู่รากชูเชียงราย” อีกทั้งจังหวัดเชียงรายยังเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพที่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมายที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสงครามได้อีกด้วย
ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม ได้นำคณะเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบ “กิจกรรม Networking Dinner” เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ทั้ง 2 พื้นที่ ระหว่างสมุทรสงคราม- เชียงราย ได้ทำความรู้จัก หารือหรือเจรจาธุรกิจ ตลอดจนซื้อ-ขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยมีผู้ประกอบการฯ เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 60 คน ณ ร้านอาหารภูภิรมย์ สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย รวมถึงการนำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรสงครามและสมุทรสาคร เดินทางทัศนศึกษาด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อสำรวจข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว (Product Testing) ที่มีศักยภาพและพร้อมเสนอขาย อาทิ อาข่าฟาร์มวิลล์, Abonzo Paradise, Singha Park Chiang Rai, สกายวอล์คผาเงาสามแผ่นดิน, โครงการพัฒนาดอยตุงฯ วัดร่องขุ่น ฯลฯ รวมถึงสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนร่วมกับชุมชนตามแนวคิด Sustainable Tourism Goals (STG) ตลอดจนเรียนรู้ วิถีชีวิต และภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าของชุมชนอย่างลึกซึ้ง ณ วิสาหกิจชุนชนท่องเที่ยวเพื่อสังคมเชียงแสน ชุมชุนท่องเที่ยวปางห้าโฮมสเตย์ และหมู่บ้านผาหมี ณ จังหวัดเชียงราย ตลอดระยะเวลา 4 วัน 3 คืน ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม 2566
ทั้งนี้ ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม คาดหวังว่ากิจกรรมดังกล่าว จะทำให้เกิดการพัฒนาต่อยอดและยกระดับคุณภาพมาตรฐานการบริการด้านการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวมากขึ้น เกิดการแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงรายช่วยสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ก่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงข้ามภูมิภาค ระหว่างสมุทรสงคราม และเชียงรายอันจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวให้กับทั้งสองพื้นที่ในอนาคตได้
จากนั้นนายวิสูตร บัวชุม ผอ.ททท.สนง.เชียงราย ได้นำเสนอถึงบริบทแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายที่มีความโดดเด่นและความหลากหลายร่วมไปถึงข้อมูลนักท่องเที่ยวในปี 2565 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายถึง 5,050,000 คน ขณะในปีนี้(2566)ผ่านพ้น 9 เดือน มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังจังหวัดเชียงรายถึง 3,160,000 คน ซึ่งเหลืออีก 3 เดือนดาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคนมาท่องเที่ยวสัมผัสหนาว ชมทะเลหมอกจากดอยต่าง ๆ และเที่ยวงานเชียงรายดอกไม้งาม เชียงรายดอกไม้อาเซียน และงานบอลลูนที่สิงห์ปาร์ค จากนั้นคณะทั้งหมดได้ถ่ายภาพร่วมกัน