วันที่ (6 ต.ค.65 ) จากระดับน้ำเพิ่มสูงจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่ปล่อยเพิ่มมาในปริมาณ 2,765 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้มวลน้ำเอ่อล้นและจ่อประชิดตลาดและตัวเมืองสิงห์บุรี จนขณะนี้ได้ท่วมผิวการจราจรไปแล้ว 3 เลน ส่งผลให้การสัญจรติดขัดเคลื่อนตัวช้า และที่บริเวณแยกถนนขุนสรรค์เส้นทางที่จะเลี้ยวเข้าตัวเมืองมุ่งหน้าเข้าตลาดสิงห์บุรี มีน้ำล้นไหลเข้าตัวเมือง โดยล่าสุดเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่วางแนวกระสอบทราย พร้อมกับปิดแยกถนนขุนสรรค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านฝั่งคลองชลประทานหน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรีน้ำได้ไหลบ่าข้ามถนนเพิ่มระดับน้ำในคลองชลประทาน ทางเทศบาลจึงได้เร่งเจ้าหน้าที่ ให้นำรถขนดินและรถแม็คโคสร้างแนวคันดินป้องกันน้ำท่วม จึงฝากถึงผู้ที่ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวัง การเดินทางในบริเวณนี้ บางเส้นทางที่จะเข้าตลาดไม่สามารถเลี้ยวเข้าตลาดสิงห์บุรีได้ ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็น ขอให้หลีกเลี่ยงเส้นทางเส้นทางดังกล่าวและไปใช้เส้นทางอื่นแทน ส่วนที่ตำบลบ้านหม้อ ต.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี น้ำก็ยังคงสูงอยู่ถึงระดับหน้าอก ชาวบ้านบางรายที่ไม่มีเรือก็ต้องอาศัยเรือจาก ปภ.สิงห์บุรี เพื่อสัญจรเข้าออกบ้าน และบางคนก็เดินลุยออกมาจากบ้านเอง
นาง ดวงสมร สุขวงศ์ อายุ 49 ปี แม่ค้าขายปลาทูเข่ง ที่ได้เช่าบ้านอยู่ที่ตำบลบ้านหม้อ เล่าทั้งน้ำตา ให้ทีมข่าวฟังว่า น้ำมาเร็วมากเก็บข้าวของไม่ทันเพราะตอนนั้นลูกชายก็ไปช่วยกรอกกระสอบทรายอีกหมู่หนึ่งพอมีประกาศให้รีบเก็บของเพราะมีพนังกั้นน้ำพัง ตัวเองเก็บคนเดียวไม่ทันเลยตัดสินใจออกมาทันที ของในบ้านเสียหายทั้งหมดจมไปกับน้ำ เอารถออกมาได้อย่างเดียวพร้อมกับสุนัขที่เลี้ยงไว้ 2 ตัว ขึ้นกระบะมา ลำบากมากเพราะต้องอาศัยนอนในรถกินอยู่ก็ลำบาก ยังดีที่ได้ของแจกจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาช่วยเหลือ
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ของจังหวัดสิงห์บุรีตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.- 5 ต.ค.นั้น ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 อำเภอ 8 ตำบล 6ชุมชน 30 หมู่บ้าน 4,722 หลังคาเรือน 13,594 คน
จินตนา ปานมี ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สิงห์บุรี