กลุ่มผู้ปลูกกระท่อม รวมตัวเข้าแจ้งความ ที่สภ.วังน้อย หลังจากบริษัทขายต้นกล้าไม่ยอมทำตามสัญญารับสื่อผลผลิตเมื่อครบตามกำหนด สัญญา เหมือนถูกหลอกให้ซื้อกล้าพันธุ์ ทวงถามไม่ได้รับคำตอบ อ้างโน้นนี้นั้น เดือดร้อนเสียหายกันทั่วหลายจังหวัด
กลุ่มผู้ปลูกกระท่อมในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท และ พระนครศรีอยุธยา ประมาณ 20 คน นำโดยนายกมล อรุณรัศมี (ผู้ใหญ่ ยอด) อยู่บ้านเลขที่151/2หมู่1 ตำบลสาลี อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ภัทรพล โนนตาเถร พนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่ากลุ่มของพวกตนได้ถูกชักชวนจากนายอาร์ต (ไม่ทราบจริง-นามสกุลจริง) ให้ซื้อกล้าพันธุ์ต้นกระท่อมในราคาต้นละ 150 ถึง 190 บาทโดยอ้างว่า หากปลูกจนโต ครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี บริษัทจะมารับซื้อใบจากทางลูกไร่ในราคากิโลกรัมละ 170 บาทโดยไม่คัดเกรดใบ เมื่อตกลงซื้อแล้ว ได้ไปทำสัญญาไว้กับบริษัทบริษัทหนึ่ง ซึ่งตั้ง อยู่ที่ตำบลสนับทึบ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เงื่อนไขคือลูกไร่ต้องซื้อต้นพันธ์กระท่อมจากทางบริษัทในราคา ต้นละ 150 บาท เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 1 ปี บริษัทจะมารับซื้อใบจากทางลูกไร่ในราคากิโลกรัมละ 170 บาทโดยไม่คัดเกรดใบ แต่เมื่อครบกำหนดเก็บใบขายได้บริษัทไม่ทำตามสัญญาที่ระบุไว้ในหนังสือสัญญา คือ ราคาซื้อไม่เป็นตามสัญญา ไม่มีกำหนดรับซื้อใบในรอบถัดไป และยังไม่มีกำหนดจ่ายเงินสำหรับใบที่บริษัทรับซื้อไปแล้ว ทางลูกไร่ผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีที่บริษัทผิดสัญญามีความประสงค์เข้าแจ้งความที่ สภ.วังน้อย ในวันที่ 20 พ.ค.2566 เวลา 11.00 น.
นายกมล อรุณรัศมี (ผู้ใหญ่ ยอด) อยู่บ้านเลขที่151/2หมู่1 ตำบลสาลี อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ตนได้ถูกนายอาร์ตมาพูดชักชวนโน้มน้าว นำข้อเสนอดีๆว่าซื้อพันธุ์กระท่อมไปปลูกแล้วจะมีบริษัทรับซื้อให้ราคาดีตลอดระยะเวลา 5 ปี ตนจึงได้ประชุมชักชวนลูกบ้าน มาร่วมกันปลูกแต่ลูกบ้านบอกให้ตนลองปลูกดูก่อนถ้าได้ผลผลิตดีก็จะทำตาม ต้นจึงซื้อกล้าพันธุ์กระท่อมมาทดลองปลูกจำนวน 50 ต้น แต่เมื่อครบกำหนดเก็บเกี่ยว กลับติดต่ออาร์ตไม่ค่อยได้ และไม่เข้ามาดูแลตามที่สัญญากันไว้
ซึ่งกลุ่มปลูกกระท่อมที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ละคน ซื้อกล้าพันธุ์กระท่อมจากบริษัทดังกล่าว ตั้งแต่ 50 ต้น ไปจนถึง 500 ต้น นำไปปลูกต้องเสียค่าดูแลรักษา ใส่ปุ๋ย ให้น้ำ และจ้างคนงานเก็บ มีค่าใช้จ่าย แล้วพอถึงกำหนดบริษัทไม่ยอมมารับซื้อตามที่สัญญากันไว้ จึงเกิดความเสียหาย ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ทางบริษัทก็ไม่ยอมมาชี้แจงว่าเป็นเพราะอะไร ถึงไม่ยอมมารับซื้อ บ่ายเบี่ยงมาตลอด ทางกลุ่มปลูกกระท่อมคิดว่าโดนเบี้ยว จึงได้รวมตัวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับทางบริษัท ที่ไม่ทำตามเงื่อนไขสัญญา
ส่วนทางด้านนายสมพงษ์ บัวเจริญ อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 5 ตำบลถอนสมอ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า ตนก็โดนเช่นกัน มีคนมาขายต้นกล้ากระท่อม ในราคาต้นละ 150 และเมื่อคบ1 ปีจะรับซื้อใบในราคา กิโลกรัมละ 170 บาท เป็นเวลา5 ปี จึงตัดสินใจซื้อ 300 ต้น นำไปปลูกพื้นที่ 3 ไร่ เมื่อครบกำหนด 1 ปีก็นำไปขายให้ครั้งแรกแต่ได้เงินไม่ครบจากราคา7,000 บาท แต่ได้เงินมาแค่ 1,300 บาท และมาเที่ยวที่2 เก็บไปขายให้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน แต่ยังไม่ได้เงินเลยจนบัดนี้ คิดว่าโดนหลอกขายต้นกล้าแต่ไม่รับซื้อผลผลิตแน่นอน ก็เลยรวมตัวกันมาแจ้งความ
ต่อมา พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย ได้เชิญตัวแทนผู้ได้รับความเสียหาย มารับฟังความเดือดร้อน โดนรับปากจะดำเนินการให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งในวันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม นี้ ได้สั่งการให้ รองผกก.สภ.วังน้อย รับเรื่องราวของผู้ได้รับความเดือดร้อน โดยได้ให้กลุ่มปลูกกระท่อมส่งตัวแทน มา5 คน เพื่อปรึกษาหารือรับฟังปัญหา และ ขั้นตอนในแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างผู้เสียหายกับทางบริษัท และจะได้ประสานกับทางบริษัทในการเจรจาหาข้อสรุปว่าจะพอตกลงกันได้หรือไม่ หากตกลงกันไม่ได้ก็ต้องดำเนินคดีไปตามข้อกฏหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้เสียหายที่รับซื้อต้นกล้าไปแล้ว แต่ยังไม่ครบกำหนด 1 ปี ที่เก็บผลผลิต อีกหลายเจ้า ก็มีความหวั่นวิตกว่าจะโดนหลอกเหมือนกับคนที่มาแจ้งความเหมือนกัน แต่ยังไงก็รอความหวัง รอฟังผลการเจรจาที่ทางตำรวจจะได้นัดกับทางบริษัทให้มาคุยตกลงกันอีกครั้งหนึ่ง