จากกรณีที่สื่อโซเชียลได้เผยแพร่ภาพ และข่าวว่า “พระนพพร วัดไผ่ล้อม อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กำลังอุ้มนายเภา ทองสอาด ผู้สูงอายุ มีอายุ 98 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่1 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ที่กำลังป่วยเดินลุยน้ำหนีออกมา นำตัวส่งโรงพยาบาล เพราะพนังกั้นน้ำพัง น้ำไหลท่วมชุมชนด้านในและบ้านนายเภา เร็วมาก”
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังวัดไผ่ล้อม หมู่ที่ 1 ต.โพนางดำออก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ได้พบกับ พระสมุห์นพพร ญาณสัมปันโน เลขานุการเจ้าคณะตำบลโพนางดำตก วัดไผ่ล้อม ซึ่งเป็นพระที่อุ้มนายเภา ทองสอาด ตามภาพ/ข่าว ปรากฏว่า นายเภาได้เสียชีวิตก่อนที่พระจะไปถึง เป็นการอุ้มศพไปที่วัด ไม่ใช่อุ้มไปส่งโรงพยาบาลแต่อย่างใด โดยนายเภาเสียชีวิตด้วยโรคชรา ทางวัดถูกน้ำท่วมความลึกประมาณ 1 – 1.20 เมตร ศาลาธรรมสังเวช ถูกน้ำท่วมจึงนำร่างนายเภา ขึ้นไปตั้งบนศาลาใหญ่ และกำหนดทำการฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้(2ตค.65)เพราะเกรงว่าระดับน้ำจะสูงกว่านี้แล้วจะประกอบพิธีไม่ได้
พระสมุห์นพพร ญาณสัมปันโน เลขานุการเจ้าคณะตำบลโพนางดำตก วัดไผ่ล้อม เล่าว่า เมื่อวาน(30ก.ย.65) หลัง
จากฉันเช้าเสร็จแล้วประมาณ 7 โมงกว่าๆได้รับโทรศัพท์จากโยมซึ่งเป็นสะใภ้ของผู้ตาย โทรมาบอกว่า คุณ…ปู่เสียแล้ว ให้มาดูหน่อย จึงเดินลุยน้ำไปดู พบว่าได้เสียชีวิตแล้ว และบอกกับญาติว่าตอนนี้ด้วยสถานการณ์น้ำ ทุกคนกำลังขนของออกจากบ้านที่ถูกน้ำท่วมออกไปข้างนอก ไม่มีใครอยู่ด้วย ระดับน้ำได้ล้นคันกั้นน้ำ จึงชวนพระอีกองค์ไปเป็นเพื่อน ไปช่วยกันอุ้มตามาที่วัด สาเหตุที่ต้องอุ้มออกมาเพราะน้ำท่วมบ้านผู้ตายลึกมาและน้ำเชี่ยว รถไม่สามารถเข้าไปรับได้
น.ส.สุวารี ทองสอาด อายุ 58 ปี บุตรสาวของนายเภา(ผู้เสียชีวิต) เล่าว่า พ่อเสียชีวิตที่บ้าน จึงโทรบอกพระ พระก็มาดูแล้วบอกว่า “ไปแล้วนะ” (เสียชีวิตแล้ว) ตนบอกว่าจะนำศพไปวัดเลย พระบอกว่าจะไปอย่างไงอยู่คนเดียว ขณะที่น้ำขึ้นเรื่อยๆ พระจึงอุ้มศพไปที่วัดให้ ซึ่งก่อนหน้านั้นจะพาพ่อไปโรงพยาบาลแต่ไปไม่ทัน เพราะน้ำกำลังเข้าท่วมแล้วยุ่งๆกันต่างคนต่างกำลังช่วยกันเก็บของ เหตุเกิดเมื่อวาน(30ก.ย.65) เวลาประมาณ 07.30 น.ลูกสาวเรียกตนขึ้นไปบนบ้านเห็นว่าพ่ออาการไม่ดี จึงขึ้นไปดูแล้วตบแก้แกเบาๆแกเอ้ออ้าพูดไม่ได้แล้ว จากนั้นก็ขาดใจ พ่อไม่มีโรคประจำตัวแต่ด้วยความชรา โดยได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศล 2 คืน และกำหนดฌาปนกิจวันพรุ่งนี้ (2ต.ค.65)เพราะกลัวว่าน้ำจะขึ้นอีกจะทำการฌาปนกิจไม่ได้
วรชล ฟักขาว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยนาท