เมื่อวันที่ ( 2 ก.พ.66 ) สืบเนื่องจาก กก.1 ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) สืบสวนและเฝ้าระวังในพื้นที่เขตรับผิดชอบ ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวงพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกันกวดขัน จับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายตามเส้นทางสายเอเชีย กระทั่งเวลา 20.00 น. ขณะตรวจตราบริเวณ ทล.32 ถนนสายเอเชีย (ขาเข้า) จ.พระนครศรีอยุธยา โดยพบรถยนต์ พบรถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กน 4278 กำแพงเพชร ลักษณะบรรทุกของหนักวิ่งมาด้วยความเร็ว ผ่านบริเวณ ด่านเก็บเงินบางปะอินขาเข้ากรุงเทพมหานคร เกรงว่าเกิดอันตราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดง และเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่รถยนต์คันดังกล่าว เร่งเครื่องพยายามหลบหนีและใช้ความเร็วสูง ไม่ยอมหยุดให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ซิ่งหนี อย่างไม่คิดชีวิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้รถสายตรวจทางหลวง จำนวน 2 คัน ขับไล่ล่า ประกบหน้าและประกบหลังจนกระทั่ง ชายคนขับรถยนต์เห็นทีท่าว่าหนีไม่รอด จึงยอมจอดรถแล้วกระโดดรถหลบหนีข้ามถนนไปได้ บริเวณถนนพหลโยธิน ขาขึ้น หลักกิโลเมตร ที่ 54 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจค้นภายในรถยนต์พบแรงงานต่างด้าวชายหญิงอายุประมาณ 25 – 35 ปี พร้อมกระเป๋าสัมภาระ นั่งอัดแน่นมาภายในรถจำนวนทั้งหมด 19 ราย ตรวจสอบไม่พบเอกสารหรือหนังสือเดินทาง สอบถามผ่านล่าม ทราบว่าแรงงาน ดังกล่าวได้เดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติมายัง อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้น ชายคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ได้ไปรับแรงงานต่างด้าวทั้งหมดขึ้นมา โดยยังไม่ได้มีการจ่ายค่าหัวหรือเสียค่าดำเนินการใดๆ และยังไม่ได้แจ้งว่าจะนำแรงงานทั้งหมดไปส่งที่ใด ก็มาถูกจับเสียก่อน
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการออกหมายเรียกผู้ครอบครองรถเข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนขับหรือไม่ และจะได้ดำเนินการออกหมายจับคนขับที่หลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าว พร้อมรถยนต์ของกลางบันทึกการจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจวังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป