สมุทรปราการ-คนไทยในยูเครนอพยพหนีความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน กลับไทยชุดที่สอง 58 คนเดินทางมาถึงไทยแล้ว

หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาคนไทยในยูเครน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อความ ปลอดภัยของคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศยูเครน ได้พากันอพยพหนีตายได้เดินทางกลับประเทศไทยชุดแรกจำนวน 38 คนโดยได้รับการช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ชอ เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 923

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ (2 มี.ค.65 ) นายฉัตรชัย วิริยเวชกุล อธิบดีกรมการกงสุล พล.ท.ณรงค์ พฤกษารุ่งเรือง ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์ปฏิบัติการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันต้อนรับ คนไทย ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบต่อความ ปลอดภัยของคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศยูเครน ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยชุดที่สองของวันนี้จำนวน 58 คน ที่เดินทางมาด้วยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 384 เดินทางจาก Dubai มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพเช่นเดียวกัน โดยผ่านขั้นตอนการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด 19 ตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยได้มีการนำรถบัสจำนวน 3 คันมารอรับคนไทยทั้งหมดเดินทางไปตรวจคัดกรองอีกครั้งและรอผลตรวจจากแลปที่สถาบันบำราศนราดูร

โดยที่คนที่เดินทางกลับมาจากประเทศยูเครน ได้เล่าถึงสถานการณ์ในขณะที่อยู่ในยูเครนว่า สถานการณ์ในยูเครนยังไม่สงบน่ากลัวมาก ทุกคนหนีมาด้านรถไฟ และแต่ใครจะกระโดดขึ้นรถไฟได้เพื่อที่จะมาพบท่านทูตที่ระวีป ทุกคนต้องเอาตัวรอดและต้องตัดสินใจเอาเองนะเวลานั้น บางทีไปเป็นกลุ่มก็อาจจะแตกแยกกันเองในเรื่องความคิดเห็นแล้วแต่ว่าใครอยากอยู่ใครอยากไป เพราะจริง ๆ สถานทูตตั้งใจที่จะมีรถมารับแล้ว แต่ด้วยว่าเข้าไปที่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องหนีขึ้นรถไฟกันมาเอง ซึ่งทุกอย่างท่านทูตซัพพอร์ตมาเป็นระดับ ที่ดูใบก็มีคนมาดูแลตามขั้นตอน และขณะที่พวกตนต้องพากันอพยพมาที่ศูนย์มันจะเสียงหวอดังตลอดเวลาเพราะนั้นคือโดนโจมตีแล้ว ซึ่งยูเครนที่นั้นก็เริ่มทยอยออก และเราเป็นคนไทยพูดภาษายูเครนไม่ได้ เวลาเราสื่อสารหาเขา เขาจะฟังไม่รู้เรื่อง และเขาก็พาพวกเขาออกมา แต่พวกตนซึ่งเป็นคนไทยพอออกมาก็ไม่รู้จะไปทางไหนทุกอย่างมันบีบหัวใจมากเลยในขณะนั้น และเสียงหวดที่เตือนในทุกคนออกจากพื้นที่ดังตลอดเวลาและเราก็ได้ยินเสียงระเบิดตลอด บางคนที่หนีออกมาแทบจะไม่ได้เอาอะไรติดตัวออกมาเลย ทุกคนต้องออกมาที่สถานีรถไฟให้ได้ เพื่อที่จะเดินทางมาระวีป เพราะว่าทางการไม่สามารถเอารถเข้าไปรับได้ การที่เราหนีระเบิดไม่เหนื่อยเท่ากับการแย่งกันขึ้นรถไฟ มีบางคนตกลงไปในรางรถไฟต้องพากันดึงขึ้นมา บางคนช่วยไม่ทันก็โดนเหยียบกันเองจนได้รับบาดเจ็บเลือดอาบหน้า มีทั้งผลักทั้งดันคิดว่าจะไม่ได้กลับประเทศไทยแล้ว โดยเฉพาะตอนที่หลบในหลุมหลบภัยข้างบนก็ปล่อยระเบิด และไม่มีน้ำกินเลย แต่ทุกคนก็ฮึดสู้กันมา ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้มาถึงประเทศไทย วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้กลับบ้านคิดถึงลูกมาก ถ้าไม่ลูกคงไม่มีแรงกลับมาวิ่งกันจนหมดแรง แต่ก็ต้องวิ่งเอาชีวิตให้รอดข้างบนก็ระเบิดข้างรถก็คนเยอะมาก ซึ่งสถานทูตได้ให้การช่วยเหลือเราอย่างมากโดยมีการติดต่อกันทางไลน์แจ้งให้เราไปรอที่ไหนอะไรแบบนี้ ตนตัดสินใจทันที่ตั้งแต่เขาบอกเก็บของตัดสินใจกลับบ้านเลยอยู่ไม่ได้แล้วเสียงเตือนมันทำให้ใจสั้นมาก ต้องขอขอบคุณทุก ๆ คนที่สามารถพาพวกตนกลับมาได้ขอบคุณท่านทูตขอบคุณคนไทยทุกคนที่เอาใจช่วย ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ถึงเหตุการณ์ทางด้านโน้นจะสงบลงก็คงไม่ไปอีกแล้ว ทุกคนก็ลงความเห็นกันแล้วว่าไม่อยากไปกันแล้วมันอันตรายมาก

ด้านนายนเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา หน้าด่านควบคุมโรคท่าอากาศย่านสุวรรณภูมิ ได้เปิดเผยว่า วันนี้เรารับในขบวนการตรวจคนเข้าเมือง เม่อสักครู่ด้านในเราก็ได้มีการตรวจแลปสวอบ RPCCR ซึ่งทุกท่านจะได้รับการตรวจและไปรอผลที่บำราศนราดูร เพื่อจะดูว่ามีผลบวกหรือไม่ ถ้าเป็นผลบวกก็จะมีการดูแล และถ้าผลเป็นลบทุกคนก็สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้เลยและไปสังเกตอาการที่บ้านตัวเอง ซึ่งทุกคนจะถูกกักตัวไม่เกิน 24 ชั่วโมงเพราะว่าผลแลปจะออกภายใน 4 ชั่วโมงก็รู้ผลแล้ว ซึ่งทุกคนก็เหมือนเดินทางเข้าประเทศทั่วไปเพราะไม่ได้มีความเสี่ยงอะไรที่ต่างจาคนทั่วไปที่มาจากต่างประเทศเป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่คนต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศเรา

ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า เคสที่เรารับคนไทยมาจากยูเครนทั้งหมดทุกกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นต่างประเทศกระทรวงคมนาคมและกระทรวงจัดหางานเรามีการประสานความร่วมมือกัน มีการวางแผนการรับคนไทยที่กลับมาด้วยความเรียบร้อย ไฟล์ทที่เห็นเป็นไฟล์ทEK 384 เป็นไฟล์ทที่ 2 ของวันนี้ เมื่อช่วงเป็นเที่ยวบินที่มาจากการบินไทยมีผู้โดยสารทั้งหมด 38 คนก็ผ่านการคัดกรองไปถึงโรงพยาบาลบำราศนราดูร เป็นที่เรียบร้อย และไฟล์ทนี้เป็นไฟล์ทที่สองที่มีคนไทยเดินทางมาทั้งหมด 58 คน การปฏิบัติในภาพร่วมการคัดกรองทุกอย่างเป็นไปตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ในเรื่องของการรับคนไทยทั้งหมดที่จะมีอีกทั้งหมด 2 วัน ที่เราประสานความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศต้องเรียนว่าสนามบินสุวรรณภูมิมีความพร้อมในการปฏิบัติ

สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

อยุธยา-ทน.พระนครศรีอยุธยา ประชุมสภาฯสมัยสามัญสมัยแรกครั้งที่ 1 ประจำปี 2565 เพื่ออนุมัติงบปรับปรุงงานด้านจราจร พร้อมสนับสนุนงบป้องกันโควิด-19

เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ประชุมสภาเทศบาลนครพระนครศ […]

You May Like

Subscribe US Now