มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร แสดงความอาลัย “ครูมิ้ม” นิสิตครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษา ปี4 ของวิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานี ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์อุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้
วันที่ (2 ต.ค.67) พระราชวัชรสารบัณฑิต หรือ เจ้าคุณประสาร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร ได้กล่าวถึงกรณีที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้นำคณะครูและนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลศึกษาปีที่ 2 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไปทัศนศึกษานอกสถานที่และรถบัสรับเหมาได้เกิดอุบัติเหตุบนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าบริเวณพื้นที่ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี และทำให้ครู นักเรียนเสียชีวิตนั้น เบื้องต้นจากการติดตามข่าวและมหาวิทยาลัยได้รับรายงานจากพระราชอุทัยโสภณ(มนัส) เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี เจ้าอาวาสวัดหนองขุนชาติ และผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าหนึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นมีนิสิตของวิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานีรวมอยู่ด้วยคือนางสาวสริญญา หอมเกษร (ครูมิ้ม) เป็นนิสิตหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศึกษาชั้นปีที่ 4 รหัสนิสิต 6438502021 ในภาคการศึกษาที่ 1 นิสิตลงฝึกสอนตามหลักสูตรที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม โดยเหลือการฝึกสอนอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นครูมิ้มก็จะกลับเข้ามารายงานผลการปฎิบัติงานต่อวิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานีและเหลืออีกหนึ่งเทอมการศึกษาก็จะได้เป็นบัณฑิตสาขาครุศาสตร์อย่างสมบูรณ์
พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า สำหรับนางสาวสริญญา หอมเกษร หรือครูมิ้ม เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2545 อายุ 22 ปี ครูมิ้มได้เข้ามาเป็นนิสิตชั้นปีที่หนึ่งเมื่อปีการศึกษา 2564 ตลอด 4 ปีในรั้ววิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานีนั้นเธอเป็นที่รักของครูบาอาจารย์และเพื่อนๆทุกคนเนื่องจากมีอัธยาศัยไมตรีดี เป็นนิสิตจิตอาสา ช่วยเหลือการงานของวิทยาลัยสงฆ์ในทุกกิจกรรมและจากการบ่มเพาะของสถาบันการศึกษาประกอบกับอุปนิสัยใจคอส่วนตัวจะเห็นได้ว่าเธอได้ทำหน้าที่ของความเป็นครูอย่างกล้าหาญ เปี่ยมบริบูรณ์ในการปกป้อง คุ้มครองและให้ความอบอุ่นกับลูกศิษย์จนนาทีสุดท้ายด้วยชีวิต
ขณะนี้พระพรหมวัชรธีราจารย์ อธิการบดีได้มอบหมายให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา ฝ่ายวิชาการ ฝ่ายกิจการทั่วไป คณะครุศาสตร์ วิทยาลัยสงฆ์อุทัยธานี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ลงไปช่วยเหลือดูแลอย่างใกล้ชิดให้การช่วยเหลือพิธีบำเพ็ญกุศลศพอย่างเต็มกำลังและยังให้หาแนวทางช่วยเหลือเกื้อกูลครอบครัวอีกต่อไปด้วย พระราชวัชรสารบัณฑิต กล่าวในตอนท้าย
