เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ (17 มิ.ย. 67 ) เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้รับแจ้งจากสายลับ แจ้งว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยได้เดินทางมาจาก อ.ลานหอย จ.สุโขทัย มุ่งหน้าสู่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ผ่านทาง จ.ลพบุรี บริเวณถนนหมายเลข 3326 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) และ ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. พร้อมกำลังรวม 18 นาย พร้อมรถวิทยุตรวจการณ์ จึงได้ร่วมกันตรวจสอบเส้นทางดังกล่าวที่ได้รับแจ้งจากสายลับ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันมาถึงบริเวณถนนหมายเลข 3326 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ขท 2857 กทม. และรถยนต์เอนกประสงค์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สีขาว หมายเลขทะเบียน ขง 2849 พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นรถตามเบาะแสที่ได้รับแจ้งจากสายลับขับผ่านมา ในลักษณะใช้ความเร็วสูง รถยนต์ทั้ง 2 คัน ได้แยกกันหลบหนี โดยใช้ถนนหมายเลข 2321 มุ่งหน้า อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ถึงบริเวณริมทางสาธารณะ ถนนหมายเลข 2321 หมู่ 7 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันแสดงตัว ให้สัญญาณเพื่อหยุดรถโดยใช้สัญญาณไฟวับวาบกระพริบสีแดง และออกคำสั่งบังคับผ่านไมโครโฟน เพื่อหยุดรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ขท 2857 กทม. เมื่อรถคันดังกล่าวหยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อขอทำการตรวจสอบและตรวจค้น พบ นายจิรยุทธ ทรงตระกูลวงศ์ เป็นผู้ขับขี่ โดยมีผู้โดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว
ต่อเนื่องเรื่อยมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขง 2849 พระนครศรีอยุธยา ที่หลบหนีมาบนถนนทางหลวงหมายเลข 2321 ได้ใช้เส้นทางหลบหนีเข้ามายังบริเวณหมู่บ้านด่านจันทร์ จนกระทั่งพบจอดอยู่บริเวณท้ายป่ามันสำปะหลัง หมู่บ้านด่านจันทร์ ม.6 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ปิดล้อมพื้นที่พร้อมวางกำลังตรวจค้นพื้นที่ดังกล่าวโดยละเอียด เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. พบผู้ต้องหา จำนวน 12 คน หลบซ่อนอยู่ในพงหญ้าท้ายป่ามันสำปะหลัง หมู่บ้านด่านจันทร์ ไม่พบผู้ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ซึ่งรถคันดังกล่าวตรวจสอบในฐานข้อมูลยานพาหนะ กรมการขนส่งทางบก พบว่า นาย ทองหล่อ ท้าวอรุณ เป็นผู้ครอบครองรถคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 24 คน และรถยนต์ทั้งสองคันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สภ.สระโบสถ์
พบว่าผู้ถูกจับ 23 คน เป็นคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบสวน นายจิรยุทธ ให้การว่าได้ไปรับแรงงานต่างด้าวที่บริเวณริมถนนข้างทาง อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก โดยได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 15,000 บาท และยังรับต่อว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง ซึ่งตนเองรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่มีหนังสือเดินทาง หรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด โดยจะนำพามาส่งที่ปลายทางที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจสอบ ซึ่งตนเองได้กระทำแบบนี้มาครั้งแรก
จากการสอบสวนถามผู้ต้องหาผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาร์ ให้การยอมรับว่า ตนเองพร้อมพวกจำนวน 23 คน ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ และเดินข้ามมาในพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายต่อคน จำนวน 15,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นาย จิรยุทธ ในข้อหาซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายเพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ส่วนชาวเมียนมา ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม ณ หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงเมืองลพบุรี หลังจากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สระโบสถ์ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
กนกศักดิ์ แสงตระการ จ. อ่างทอง
