วันที่ (30 พ.ค.67) นายอมร รัชตังกูร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิจิตร ให้สัมภาษณ์ว่าจาการที่ กกต.พิจิตร จัดให้มีการรับสมัคร สว.ของจังหวัดพิจิตรในช่วงระหว่างวันที่ 20-24 พ.ค. 67 ซึ่งมีผู้สมัคร 537 คน จาก 12 อำเภอของจังหวัดพิจิตรจากนั้นได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม 26 ข้อ นั้น ปรากฏว่าขณะนี้พบผู้สมัครลักษณะต้องห้ามจำนวน 25 ราย ซึ่งส่วนใหญ่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 21 นั่นคือ เป็นสมาชิกพรรคการเมืองและข้อ 24 เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นเว้นแต่ได้พ้นมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้งและข้ออื่นๆ
ซึ่งผลจากการที่ผู้สมัครที่ถูกตรวจสอบและขาดคุณสมบัติจะต้องถูกดำเนินการที่มีบทลงโทษผู้กระทำผิดหรือกรณีรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง สว. 2567 คือ 1. ผู้ใดฝ่าฝืนรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกไม่ว่าเพราะเหตุผลใดได้สมัครรับเลือกต้องระวางโทษจำคุก 1-20 ปี ปรับ 20,000 -200,000 บาท ให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี และมีความผิดในข้อหาที่ว่าผู้ใดรับรองหรือเป็นพยาน ซึ่งลงชื่อรับรองเอกสารหรือหลักฐานที่ใช้ประกอบการสมัครเป็นเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี ซึ่ง นายอมร รัชตังกูร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพิจิตร ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่าขณะนี้ก็กำลังตรวจสอบลงในรายละเอียดเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ซึ่งคาดว่าอาจจะพบเพิ่มเติมอีกซึ่งจะได้รายงานให้สาธารณะชนรวมถึงผู้สมัคร สว. ให้ได้ทราบเป็นข้อมูลสาธารณะต่อไป ซึ่งในวันที่ 9 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ผู้สมัคร สว.ทั้ง 20 กลุ่ม ก็จะมีการลงคะแนนเลือกกันเองในระดับอำเภอ ทั้ง 12 อำเภอของพิจิตร ซึ่งประชาชนหรือผู้ที่สนใจสามารถไปดูหรือไปให้กำลังใจผู้สมัครได้ แต่ต้องปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบการรักษาความสงบด้วย
ส่วนการแจ้งความเอาผิดนั้นก็จะต้องรอคำสั่งหรือการมอบอำนาจจาก กกต.ส่วนกลางให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีอีกครั้งอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในส่วนของพื้นที่จังหวัดพิจิตรขณะนี้มีผู้สมัคร สว.ให้ข้อมูลทางลับกับผู้สื่อข่าวว่า มีผู้สมัคร สว.บางคน ที่มีนักการเมืองท้องถิ่นและนักการเมืองระดับชาติหนุนหลังว่าจ้างเกณฑ์คนให้มาสมัครเพื่อโหวตให้กับผู้ที่ตนเองสนับสนุนในราคาค่าจ้างเพียงแค่ 1,000-2,500 บาทเท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็อยู่ในการจับจ้องมองของชุดสืบสวนสอบสวน กกต.พิจิตร อยู่แล้วเพียงแต่ขอให้ผู้ที่สมัคร สว.ชี้เป้าร้องเรียนร้องทุกข์แสดงหลักฐานมาให้ชัดเจน กกต.พิจิตร ก็จะได้สอบสวนพวกนอมินีหรือพวกที่เป็นมือรับจ้างมาสมัครเพื่อดำเนินคดีต่อไปอีกด้วย
สิทธิพจน์ เกบุ้ย จ.พิจิตร