รมช.ศึกษาธิการ เปิดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” เฉลิมฉลอง 32 ปีที่ UNESCO ยกย่องอยุธยาเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เพื่อประกาศความภาคภูมิใจของคนไทยทุกคน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ Soft Power ชมไฟล้านดวง ระหว่าง 15 – 24 ธันวาคม 2566 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
ค่ำวันที่ 15 ธันวาคม 2566 เมื่อเวลา 18.00 น. ที่เวทีกลาง บริเวณหน้าวัดพระราม ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” ประจำปี พ.ศ. 2566 โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน พร้อมด้วย นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมาชิกสภาผู้แทนราชฎร คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ แขกผู้มีเกียรติ และประชาชน เข้าร่วมพิธีเปิดอย่างคับคั่ง หลังจากนั้น ประธานฯ พร้อมคณะได้เดินทางเยี่ยมชมร้านเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อด้วยเดินชมบรรยากาศการประดับตกแต่งไฟภายในงาน พร้อมชมการแสดงแสง-เสียงอย่างตระการตา ซึ่งบรรยากาศภายในงานมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ต่างสวมชุดไทยเดินเที่ยวและถ่ายภาพงานกันได้อย่างมีความสุข
การจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ในครั้งนี้ เพื่อเฉลิมฉลองปีที่ 32 สืบเนื่องจากการที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้ รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534 ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจ ของคนไทยทุกคน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาร่วมกับทุกภาคส่วนได้กำหนดให้มีการจัดงานเป็นประจำทุกปี เพื่อประกาศให้รู้ถึงความภาคภูมิใจนี้ในขณะเดียวกันก็เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ประชาสัมพันธ์จังหวัดของเรา ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็น ครั้งที่ 32 กำหนดจัดขึ้นระหว่าง 15 – 24 ธันวาคม 2566
โดย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า นครประวัติศาสตร์พระศรีอยุธยา ในอดีตเป็นศูนย์กลางการปกครองของชนชาติไทย และเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของโลก การที่นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกเรื่องการเอกลักษณ์ที่หาได้ยากยิ่ง โดยปรากฏหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมประเพณี โบราณสถาน โบราณวัตถุ อีกทั้งตำแหน่งที่ตั้งของนครประวัติศาสตร์เหมาะสมกับการอยู่อาศัยและการสัญจรทางน้ำ พื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญ มีการใช้น้ำเป็นยุทธศาสตร์ในการป้องกันเมือง นับเป็นความชาญฉลาดอย่างยิ่งของบรรพบุรุษไทย เมืองนครประวัติศาสพระนครศรีอยุธยาได้รับการรับรองเป็นมรดกโลก ประชาชนชาวไทยต่างมีความรู้สึกภาคภูมิใจและยินดีกับเกียรติภูมิที่ได้รับเป็นอย่างยิ่ง และแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของชนชาติไทยที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต ซึ่งชาวไทยล้วนตระหนักถึงคุณค่าที่ต้องร่วมกันบำรุงรักษาและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกโลกของลูกหลานสืบไป
สำหรับปีนี้ ผู้ร่วมจัดมีความตั้งใจจัดงานให้เป็นที่ประทับใจของผู้ที่ได้เที่ยวชมงาน โดยจะเนรมิตพื้นที่ภายในบริเวณงานให้เป็นเสมือนดั่งดินแดนสวรรค์ ด้วยการประดับตกแต่งแสงไฟในรูปแบบต่างๆ ให้งดงาม สว่างไสว มีจุดเช็คอินให้ได้เก็บภาพความทรงจำสวยๆ อย่างมากมาย รวมทั้งมีกิจกรรมอื่นๆ ที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้มาร่วมงาน อาทิ ถนนกินเส้น ปีนี้เราเน้นการจำลองร้านค้าสวยงามมานำเสนอ โดยคัดเลือกร้านจำหน่ายอาหารจำพวกเส้น คัดสรรร้านอร่อย มีคุณภาพของแต่ละอำเภอมาออกร้านให้ได้ลองลิ้มชิมรส อีกหนึ่งไฮไลท์คือ ตลาดย้อนยุค เป็นตลาดย้อนอดีต ที่งดงามทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม มีร้านอาหารอร่อยย้อนอดีตถึงปัจจุบัน ในราคามิตรภาพ พร้อมการแสดงพื้นเมืองต่างๆ ให้ได้รับชม กิจกรรมการแสดงบนเวทีกลาง เช่น การประกวดมิสอยุธยา ประกวดร้องเพลง การแสดงอื่นๆ อีกมากมาย การแสดงแสง เสียง ที่ ยิ่งใหญ่ตระการตา ภายใต้ชื่อเรื่อง “อโยธยา ยศเกริกฟ้า วีรกษัตรา ศิลป์เรืองรุจี วิเทศไมตรี ศรีอโยธยา” กิจกรรมออกร้านกาซาด โดยเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กิจกรรมลานวัฒนธรรม
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทุกท่าน มาร่วมเฉลิมฉลอง 32 ปีเมืองมรดกโลก มาร่วมแต่งองค์ทรงสไบ ไปชมไฟล้านดวง ในงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ระหว่างวันที่ 15 – 24 ธันวาคม ปีนี้ไปด้วยกัน มาชื่นชมกับความสวยงามของการประดับตกตกแต่งไฟล้านดวงทั่วบริเวณงาน มีอุโมงไฟ และจุดถ่ายภาพสวยมากมาย นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าราคาถูก ร่วมสนุกกับกิจกรรมตักไข่พาโชคกับร้านกาชาด ลุ้นรางวัลรถจักรยานยนต์ ทีวี ตู้เย็นและรางวัลต่างๆ หรือร่วมทำทำบุญทำกุศลกับกาอุดหนุนสลากกาชาดชิงรางวัลรถยนต์โตโยต้าฟอจูนเนอร์ และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย