เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ (17 ม.ค. 67 ) ที่ หน้าตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม นายนพสิทธิ์ อุดมสุวรรณกุล รอง ผวจ.มหาสารคาม พล.ต.ต.พรขัย ชลอเดช ผบก.จ.มหาสารคาม ได้แถลงข่าว ปราบปรามกลุ่มนายทุน หรือ กลุ่มเจ้าหนี้นอกระบบ จากเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม และ กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ทำการขออนุมัติหมายค้นศาลเข้าตรวจค้นยึดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเอกสารสัญญากู้ยืมเงินเครือข่ายกลุ่มนายทุนหนี้นอกระบบ จำนวน 2 เครือข่าย ในพื้นที่ สภ.เมืองมหาสารคาม ทำการตรวจค้นบ้านพัก นายคเชนทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี นายทุนผู้ให้กู้ยืมเงินในการทำสัญญากู้ยืมเงิน โดยลูกหนี้เงินกู้จะนำรถยนต์เป็นหลักประกันเงินกู้ สามารถทำการตรวจยึดรถยนต์ 20 คัน เอกสารสัญญากู้ยืมเงิน 6 ฉบับ มูลค่าวงเงินตามสัญญากู้ยืม ประมาณ 282,000 บาท
ส่วนจุดที่ 2 ในพื้นที่ สภ.กันทรวิชัย ทำการตรวจค้นบ้านพัก นายธนธัช (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี และน.ส.จิสติกานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี กลุ่มนายทุนผู้ให้กู้ยืมเงินในการทำสัญญากู้ยืมเงิน โดยลูกหนี้เงินกู้ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่นำรถจักรยานยนต์มาเป็นหลักประกันเงินกู้ สามารถทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ 17 คัน รถยนต์ 2 คันและเอกสารสัญญากู้ยืมเงิน 56 ฉบับ มูลค่าวงเงินตามสัญญากู้ยืม ประมาณ 1,022,000 บาท
พล.ต.ต.พรขัย ชลอเดช ผบก.จ.มหาสารคาม กล่าวว่า พฤติกรรมส่วนใหญ่รถจักรยานยนต์จะเป็นของนักเรียนนักศึกษา จะนำเอารถมาจำนำในแบบจำจอด จะได้ประมาณ 5000 -10000 บาทต่อคัน ชื่อเจ้าของรถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ปกครอง ส่วนรถยนต์ก็จะได้ประมาณหลักหมื่นบาทไม่เกินห้าหมื่นบาท อัตราดอกเบี้ยส่วนใหญ่ก็ประมาณร้อยละ 10 ต่อเดือน ตอนนี้ก็ได้นำส่งทั้งสองเครือข่ายไปดำเนินคดีตามกฎหมายและขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงชี้แนะมาตรการของรัฐบาลในด้านการสนับสนุนให้เจ้าหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบ ด้วยการสนับสนุนให้เจ้าหนี้นอกระบบขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) โดยสามารถยื่นขอใบอนุญาตสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์กับ กระทรวงการคลัง เพื่อประกอบธุรกิจตามกฎหมายต่อไป
พิเชษฐ ยากรี จ.มหาสารคาม