เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 8 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Ton Sainoil โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวีดีโอขณะคนร้ายกำลังงัดตู้เติมเงินแบบหยอดเหรียญโดยมีข้อความว่า ใครมีเบาะแส แจ้งมามีรางวัล โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกคืนวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 01.38 น.บริเวณหน้าร้านขายของชำเลขที่ 70/7 ม5 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังเกิดเหตุเข้าแจ้งความ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หวั่นคนร้ายหวนกลับมาก่อเหตุซ้ำ
กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะคนร้ายใช้ผ้าคลุมหัวปิดบังใบหน้า สวมเสื้อยืดแขนยาว กางเกงยีนส์ขายาว ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาจากถนนบางกรวย-ไทรน้อย ขาออก มุ่งหน้าเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง จากนั้นคนร้ายได้เดินลงมาจากรถ จยย.พร้อมด้วยอุปกรณ์งัดเเงะ แล้วตรงเข้าไปงัดตู้เติมเงิน โดยนำกล่องใส่เงินที่อยู่ในตู้เติมเงินมีเงินสดจำนวน 1,100 บาท ไปด้วย ใช้เวลาในการก่อเหตุประมาณ 2 นาที หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถจยย.ย้อนศร ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางอำเภอไทรน้อย
ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายของชำ โดยมีตู้เติมเงินบุญเติม ตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าร้านจำนวน 1 ตู้ ตรวจสอบที่บริเวณเบ้าเสียบรูกุญแจ มีร่องรอยถูกงัดได้รับความเสียหาย โดยคนร้ายนำกล่องใส่เหรียญที่อยู่ในตู้เติมเงินพร้อมเงินสดไปจำนวน 1,100 บาท
นายชวลิต แดงเกิด อายุ 44 ปี ผู้โพสต์และเป็นเจ้าของร้านขายของชำ กล่าวว่า คนร้ายขับรถ จยย.เข้ามาจอดหน้าร้าน จากนั้นคนร้ายได้เดินเข้ามาหยุดที่หน้าตู้เติมเงินทำทีเป็นลูกค้ามาเติมเงิน ซึ่งจากกล้องวงจรปิดเห็นได้ชัดว่าคนร้ายมีความระมัดระวังตัวหันซ้าย หันขวา อยู่ตลอดเวลา เมื่อสบโอกาสคนร้ายจึงทำการงัดที่เบ้ากุญแจ โดยใช้เวลาในการก่อเหตุประมาณ 2 นาที จากนั้นคนร้ายได้ยกกล่องใส่เงินที่อยู่ในตู้เติมเงิน แล้วรีบเดินไปที่รถ จยย.จากนั้นขับรถย้อนศรไปทางอำเภอไทรน้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณปี2562 ที่ร้านเคยมีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุยกตู้เติมเงินไป ครั้งนั้นเจ้าหน้าที่บุญเติมและะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยกันติดตามจนกระทั่งจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเอาไว้ได้
โดยครั้งนี้หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ซึ่งชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ร้านแล้ว หวังว่าน่าจะจับตัวคนร้ายได้อีกเช่นกัน อยากจะฝากถึงร้านค้าที่มีตู้เติมเงินอยู่หน้าร้าน อยากจะให้เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น และหมั่นไขเงินออกจากตู้จากบ่อยๆ อย่าให้เงินเหลือค้างในตู้เยอะ เพราะถ้าเงินในตู้มีน้อย คนร้ายทำแล้วไม่คุ้มค่าเสี่ยง คนร้ายจะได้เลิกทำ ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่ไขเอาเงินออกก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน ยอดเงินที่คนร้ายได้ไปประมาณ 1,100 บาท ขอให้คนที่คิดจะทำเรื่องแบบนี้อยากให้กลับตัวกลับใจดีกว่า เข้าใจว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี หากินลำบาก อยากให้ไปทำอาชีพสุจริตดีกว่า เพราะสิ่งที่คุณทำมันกระทบทั้งผู้ประกอบการ และถ้าคุณโดนจับมันก็จะกระทบไปถึงครอบครัวของคุณเอง ขอฝากไว้ให้คิดเพียงเท่านี้ นายชวลิตกล่าว
สาโรจน์ สว่างศรี จ.นนทบุรี