สระบุรี-ชาวบ้านผวาช้างป่า บุกทำลายพืชไร่ กว่า 30 ไร่ วอนเจ้าหน้าที่ช่วย

เมื่อวันที่ (16 พ.ค.66)  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสุรศักดิ์ พานสัมฤทธิ์ อายุ 46 ปี อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง แก่งคอย จุดชะอม จ.สระบุรี ว่ามีชาวบ้าน บ้านบึงทองหลาง หมู่.9 และหมู่.11 บ้าน 7คต ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ว่า มีช้างป่าลงจากเขาใหญ่มากินพืชไร่ของชาวบ้านจนได้รับความเสียหายมากกว่า 20 ไร่ และชาวบ้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ 18 เจ็ดคต แล้ว แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เขามาดูแลช่วยเหลือจนถึงวันนี้เป็นเวลา 5 วัน ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนที่ถูกช้างป่ามากินพืชไร่จนได้รับความเสียหาย เกิดความหวาดกลัวและวิตกกังวลเกรงว่าช้างป่าจะลงมาอีกในค่ำคืนนี้

ผู้สื่อข่าวลงพื้นพบกับนาง รุณนี พวยอ้วน (ป้านี ผู้เสียหาย) อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 9 ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้พาไปดูร่องรอยความเสียหายและเส้นทางที่ช้างป่าเข้ามากินพืชไร่และทำความเสียหาย โดยนาง รุณนี ได้พาไปดูรอยเท้าและมูลช้างที่ถ่ายทิ้งเอาไว้หลังเก็บกินกล้วยน้ำหว้าและมะพร้าว โดยมีสภาพหักโค่นเป็นช่วงๆกินพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ จำนวนกล้วยน้ำหว้าและมะพร้าว เสียหายนับร้อยต้น   จากนั้นได้เดินไปที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ 18 เจ็ดคต ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของนาง รุณนี เป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร เพื่อสอบถามเรื่องที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนที่ช้างป่าได้ลงมากินพืชไร่จนได้รับความเลยหายและชาวบ้านได้แจ้งขอความช่วยเหลือ 3 ครั้งแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ของอุทยานฯไม่สามารถให้ข้อมูลเรื่องนี้ได้ ต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชารับทราบเสียก่อน

นาง รุณนี พวยอ้วน (ป้านี ผู้เสียหาย) เล่าว่า คือว่าเรานอนกันอยู่ แล้วได้ยินเสียง แล้วหมาป้านีก็เห่าด้วย ความรู้สึกก็คิดว่า ช้างเค้าเข้าสวนเราแล้ว ก็เลยชวนตาออกไปดู ส่องไฟฉายแบตเตอรี่คู่มือเรานี่แหละ เราไปส่องดูเราก็เห็น มีเสียงดึงกล้วยดึงมะพร้าวเราลงแล้วค่ะ เพราะเสียงมันจะดัง ควัก ควัก ควัก รู้ทันทีเลยว่าคือคุณช้าง มีวิธีไล่อย่างไร เราก็ทำแบบตามประสา ของป้ากับลุง เราก็มีแค่ไฟฉายคนละกระบอก แล้วก็แกว่งไปแกว่งมา แล้วเค้าไปไหม ยังค่ะเค้าก็ยังดึงของป้านีอยู่ ดึงต้นกล้วยป้านีลงอยู่ค่ะ แล้วลุงเค้าก็เอาก้อนหินเขวี้ยง แล้วก็บอกว่าไป ออกจากที่ของเราขึ้นเขาไปเถอะ คืออันนี้เป็นคืนแรก คืนแรกเลยจ้ะ ทีนี้พอมาคืนที่สอง เราก็กำลังนอนอยู่เหมือนเดิม เค้าก็ลงมาอีกค่ะ เราก็ได้ยินเสียงเหมือนเดิม เสียงเหมือนคืนแรก ทีนี้ป้านีก็เลย ขอความช่วยเหลือเราจะมาทำกันสองตายายไม่ได้ นึกได้ว่าเขตอุทยานเจ็ดคต อยู่ใกล้ๆเรา ป้านีก็เลยไม่ได้โทรนะคะ เราคุยทางแชทเอา ว่าขอความช่วยเหลือหน่อย ให้มาช่วยป้านี เพราะว่า ช้างเข้ามาในสวน เค้าเริ่มทำลาย มะพร้าว กล้วย สับปะรด ของป้านี เขาก็ตอบตกลง แล้วป้าทำไมไม่ใช้โทรศัพท์โทร คือเขตนี้ไม่มีสัญญาณ เราแค่ติด Wi-Fi ไว้ใช้เวลาเราจำเป็น ลูกหลานเราโทรมา เรามีเหตุฉุกเฉิน เราไปธุระอย่างโน้นอย่างนี้ เราจะโทรแบบธรรมดาเหมือนเราอยู่ข้างนอกไม่ได้ มันโทรไม่ได้น่ะค่ะ พื้นที่ที่เราอยู่มันจะมีเขาล้อมรอบ ติดต่อไปสองรอบแล้วค่ะ รอบแรกเราติดต่อไปประมาณสามทุ่มกว่ากว่า เค้าก็บอกว่าจะมา เราก็รอ ตอนนั้นช้างก็ยังอยู่ รวมแล้วประมาณ 5 คืนแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่ยังไม่มา ในส่วนของความเสียหายประเมินแล้วประมาณเท่าไหร่ ก็เยอะอยู่นะคะ ป้านีก็เสียใจนะ กล้วยก็กำลังจะตกเครือ สับปะรดป้านีก็ได้เก็บลูกขายแล้วค่ะ แล้วก็มะพร้าวประมาณ 20 กว่าต้น รวมๆแล้วก็ประมาณ 100 กว่าต้น จ้ะ ในส่วนของตรงนี้ก็คือมันเสียหาย ก็ได้แจ้งไปทางเจ้าหน้าที่แล้ว ก็ยังไม่มีมาดู พอดีป้านีลงทาง เฟซบุ๊ค ก็มีทางมูลนิธิของ ปอแต๊กตึ๊ง ของชะอม ทักเข้ามาหาว่ามี หน่วยงานช่วยเหลือบ้างไหม ป้านีก็เลยบอกว่าบอกเขตอุทยานไปแล้ว แต่ก็ยังเงียบ ก็มีเจ้าหน้าที่ของ ปอแต๊กตึ๊ง ของชะอมเราเข้ามา ประสานงานให้ค่ะ แต่แถบนี้เดือดร้อนกันหลายเจ้านะคะ ก็มีเขตติดต่อของป้านีฝั่งขวา แล้วก็ทางฝั่งซ้ายด้วยค่ะ ฝั่งซ้ายก็คือของป้าแลบ แล้วก็มีของวัดป่าด้วยนะคะ วัดที่กำลังจะสร้างใหม่ ก็จนหลวงพ่ออยู่ไม่ได้ รวมๆก็หลายเจ้าน่ะค่ะ ก็วิงวอนนะคะ วิ่งวอนทางหน่วยงานที่ว่ามาช่วยเหลือชาวบ้าน ที่กำลังเดือดร้อน ให้เค้ามาช่วยป้านีด้วยค่ะ เพราะว่าคืนนี้เรากังวลใจเราไม่รู้ ว่าเค้าจะลงมาตอนไหน ทางเราไม่มีอาวุธอะไรจะไปป้องกันตัว เพราะว่าบางทีเรากำลังนอนอยู่เค้าก็ลงมา หวาดผวาค่ะ หวาดระแวงเลยว่าเค้าจะลงมาช่วงเวลาไหน ก็ไม่รู้ค่ะ เพราะว่ามันเริ่มเข้าใกล้เข้ามาบ้านเราทุกขณะ

นายสุรศักดิ์ พานสัมฤทธิ์ อายุ 46 ปี อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง เล่าว่า ผมเป็นเพื่อนใน เฟซบุ๊คของป้าเค้า ผมก็เห็นสองสามวันแล้วล่ะ ผมก็สงสัยว่าทำไมป้าคนนี้เค้าลงเฟสบ่อยจัง ผมก็เข้าไปดูว่าเค้าเป็นคนพื้นที่ไหน เข้าไปเช็คประวัติเค้านิดนึง เค้าเป็นคนพื้นที่เขตชะอม ซึ่งเป็นพื้นที่หมู่ 9 บึงทองหลางของเรา ผมก็เลยทักแชทส่วนตัว ถามว่าป้าแล้วหน่วยงานนี่มัน แล้วหน่วยงานนี่มีใครเข้ามาช่วยป้าดูแลไหมเรื่องนี้ เข้ามาดูแลป้าหรือยัง ป้าเค้าบอกว่ายัง พอเค้าลงเมื่อวานวันสุดท้าย ผมก็เลยถามป้ายังไม่มีใครเข้ามาดูแลหรอ ป้าเค้าก็บอกว่ายัง ผมก็เลยคิดในใจว่า เอ๊ะ เรื่องแบบนี้น่าจะลองปรึกษากับทาง พี่ๆนักข่าวดู อย่างนี้จะมาช่วยผมตรวจสอบพื้นที่ได้ไหม ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ผมได้ไหม ผมก็สอบถามทางพี่นักข่าว ก็ตกลงว่าจะมาช่วยกัน ผมก็เข้ามาดูในพื้นที่จริง มันก็เสียหายเยอะ แล้วก็จากที่ เข้ามาดูพื้นที่จริง มันก็ห่างจากถนนดำ 10 ถึง 20 เมตรเอง ซึ่งมันก็ใกล้บ้านเรือนด้วย แล้วมันก็อันตราย ผมคิดว่าเรื่องนี้ทางอุทยาน หรือส่วนที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับเรื่องสัตว์ น่าจะมาช่วยป้าดูแลตรงจุดนี้ ว่าเข้ามาทุกคืน ได้รับแจ้งว่าเป็นเวลา 5 คืนแล้ว เท่าที่ดูป้าแจ้งเข้ามาว่า ติดกับเขาลูกนี้น่าจะ ประมาณพื้นที่หลาย 10 ไร่ แล้วก็พื้นที่ใกล้เคียงอย่างวัดป่า วัดป่านี่ได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ว่าอยู่ไม่ได้ตอนกลางคืน ต้องย้ายออกมาข้างนอก ซึ่งพื้นที่ใกล้เคียงกับป้า ก็น่าจะเป็นหลายเจ้าของครับ ก็โดนด้วย ผมก็จะเป็นกระบอกเสียงช่วยประสานไปกับพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง หรือว่าบุคคลที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับเรื่องอุทยานเรื่องป่าไม้ เรื่องสัตว์ให้เขาเข้ามาดูแลทางเขตนี้ ก็ช่วยได้แค่นี้ครับ



เกียรติยง อัศวราศี จ.สระบุรี 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

พิจิตร-รถบรรทุกตู้คอนเทรนเนอร์ขับทิ้งโค้งพลิกคว่ำสี่แยกข้างโรงเรียนยอแซฟโชคดีที่เป็นวันหยุด

วันที่ (17 พ.ค.66 ) เมื่อเวลา 18.20 น. เจ้าหน้าที่ […]

You May Like

Subscribe US Now