เมื่อช่วงเย็นของวันที่ (8 พ.ค.66) มูลนิธิ วิน วิน นำโดย น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิ วิน วิน พร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางไปที่โรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากเพื่อนบ้านของ ด.ญ.ไก่ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี ว่าถูกพ่อทำร้ายร่างกาย ด.ญ.ไก่จึงแอบเขียนจดหมายน้อยด้วยลายมือโดยมีใจความว่า “ความลับของเรากัยยาย….” ยาย…หนูจะให้บอกแม่ว่าอย่าลืมที่สัญญานะ แล้วซื้อยาทาแผลให้หนูด้วยได้ไหม ถ้าได้เอาฝากไว้ที่ป้า..นะ เดี๋ยวเปิดเทอมแล้วค่อยบอกกับครูอีกที หนูจะไปเอาตอน 20.00 น. ถ้าไม่ลืมนะ ถ้ารถลูกชิ้นมาซื้อชีสอันใหญ่ 2 อันนะ
เมื่อไปถึง น.ส.ชลิดา และ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เข้าพูดคุยกับครูโรงเรียนราษฎร์ศรัทธาธรรม ซึ่งเป็นครูของ ด.ญ.ไก่ ก่อนพากันเดินทางไปที่บ้านของ ด.ญ.ไก่ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนไม่มากนัก เมื่อไปถึงพบ ด.ญ.ไก่อายุ 11 ปี อยู่กับยายภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวยายและหลานให้มาพูดคุยที่ห้องประชุมของโรงเรียนราษฎร์ศรัทธาธรรม โดยไม่อนุญาติให้สื่อมวลชนบันทึกภาพหรือพูดคุยแต่อย่างใด
น.ส.ชลิดา ประธานที่ปรึกษามูลนิธิ วิน วิน เปิดเผยว่า เพื่อนบ้านของ ด.ญ.ไก่ ที่อยู่ใกล้เคียง ร้องมาที่ เพจมูลนิธิ วิน วิน ว่า ด.ญ.ไก่ ถูกพ่อแท้ๆ ทำร้ายร่างกาย โดยพ่อน่าจะมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับการเสพยาเสพติด โดยเพื่อนบ้านส่งส่งจดหมายที่ ด.ญ.ไก่ เขียนให้ ก่อนไหว้วานเพื่อนบ้านให้ช่วยเอาไปให้ยาย หลังทราบเรื่องตนจึงประสานเจ้าหน้าที่่พัฒนาสังคมฯ ให้มาลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ ด.ญ.ไก่ ทันที
โดยในวันนี้ (9 พ.ค.66) นางสาวนฤมล พงษ์สุภาพ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับการประสานจากผู้อำนวยการโรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม ขอความช่วยเหลือและร่วมประเมินความเสี่ยงด้านพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงในครอบครัวของเด็กนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา เบื้องต้น จึงได้ประสานทางเทศบาลตำบลบางกระสั้น ผู้นำชุมชน และ ศูนย์ช่วยเหลือสังคมเทศบาลตำบลบางกระสั้น ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบสอบข้อเท็จจริง พบย่าของเด็ก แต่ไม่พบเด็กและบิดา โดยย่าปฏิเสธการให้ข้อมูลใดๆ ทั้งนี้ จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่า บิดาของเด็กมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับเด็กจริง เมื่อได้ข้อเท็จจริงแล้ว จึงได้ร่วมวางแผนกับทางโรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธาธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามเยี่ยมบ้านเด็กและครอบครัวอีกครั้ง
ซึ่งเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 ทีม พม.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับโรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม และศูนย์ช่วยเหลือสังคมเทศบาลตำบลบางกระสั้น ลงพื้นที่ติดตามเยี่ยมเด็กและครอบครัว ซึ่งครั้งนี้ได้พบเด็กและย่า ทราบว่า เด็ก อายุ 11 ปี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม ปัจจุบัน อาศัยอยู่กับบิดาและย่า ส่วนมารดาแยกทางกับบิดาและมีครอบครัวใหม่ ซึ่งเด็กได้ให้ข้อมูลว่า ตนเองถูกบิดาตีเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว เนื่องจากออกไปเที่ยวนอกบ้านแล้วกลับค่ำ บิดาเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็กและทำโทษเด็กด้วยการตี จากการสังเกตไม่พบร่องรอยบาดแผลใด ๆ บนร่างกายเด็ก ทีม พม.จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้ให้คำปรึกษา แนะนำแก่ย่าและเด็ก เกี่ยวกับกฎหมายและการเลี้ยงดูเด็กที่เหมาะสม ซึ่งในครั้งนั้น เด็กยังไม่ประสงค์เข้ารับการสงเคราะห์คุ้มครองในหน่วยงานภาครัฐ โดยเด็กขอปรึกษาหารือกับมารดา พี่สาว และย่าก่อน ทั้งนี้ ทีม พม.จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ โรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม ได้ประเมินความเสี่ยงของเด็กแล้วพบว่า เด็กยังคงมีผู้ดูแลและปลอดภัย จึงได้ร่วมวางแผนติดตามต่อเนื่องอีกครั้ง
จนมาถึงวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 น. ทีม พม.จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ฝ่ายปกครองอำเภอบางปะอิน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2 เทศบาลตำบลบางกระสั้น โรงเรียนวัดราษฎร์ศรัทธาธรรม ศูนย์ช่วยเหลือสังคมเทศบาลตำบลบางกระสั้น และมูลนิธิวินวิน ร่วมลงพื้นที่ติดตามเยี่ยมเด็กและครอบครัว ซึ่งพบว่าเด็กมีร่องรอยถูกบิดาตีที่แก้มและท้อง สาเหตุเนื่องจากเด็กออกไปเล่นนอกบ้านแล้วกลับค่ำมืด ในครั้งนี้เด็กมีความประสงค์ที่จะขอเข้ารับความคุ้มครองจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมารดาและย่า ได้ยินยอมให้เด็กเข้ารับการสงเคราะห์และคุ้มครองที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมทั้งดูแลตามกระบวนการกฎหมายทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม การศึกษา อย่างเป็นองค์รวม โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้วางแผน ดูแลช่วยเหลือร่วมกับครอบครัวในการเตรียมพร้อมก่อนรับเด็กกลับคืนสู่ครอบครัวในโอกาสต่อไป