เวลา 08.30 น. วันที่ (18 ธ.ค.64 ) พ.ต.ท.สราวุธ มหาชัย สารวัตรเวรสอบสวน สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายที่ลานจอดรถบริษัท บี แอนด์ ซี พูลาสกี้ จำกัด หมูที่ 13 ต.ช่องสาริกา จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.กฤช แสงพล ผกก.สภ.พัฒนานิคม ทราบ พร้อมทั้งได้ประสานแพทย์เวร รพ.พัฒนานิคม ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และมูลนิธิร่วมกตัญญูรุดเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวณเลียบตาชั่งรถหน้าบริษัท มีพนักงานขับรถ ประชาชน จำนวนมากจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว บนพื้นพบร่าง น.ส. ชลิตา ผาบหนูดำ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 หมู่ที่ 2 ต.เกาะรัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี นอนหงายเสียชีวิตในเครื่องแบบ รปภ. ใกล้ศพมีปลอกกระสุนปืนเกลื่อน มีเลือดไหลซึมเปื้อนเสื้อ เจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่เพื่อทำการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ในเบื้องต้นพบว่า น.ส.ชลิตา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด จำนวน 5 นัด เมื่อเวลาประมาณ 07.45 น. ซึ่งคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี หลังจากยิงได้ค้นตัวผู้ตายคว้ากุญแจรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า สีฟ้าหมายเลขทะเบียน 1กท-7310 ลพบุรี ของผู้ตายขับหลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง
ใกล้จุดเกิดเหตุพบนางสุภาพร เผือดนอก อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นแม่ของผู้ตายนั่งร้องให้ ให้การด้วยความเศร้าโศกเสียใจ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ตายเป็นบุตรสาว เมื่อเช้าได้เดินทางจากบ้านเพื่อมาเข้าเวร ในเวลา 08.00 น. ซึ่งมาทราบจากเพื่อน รปภ.ว่าลูกสาวตนถูกยิงตายที่ลานจอดรถ โดยนางสุภาพร ให้การว่า ผู้ที่ลงมือยิงลูกสาวของตนก็คืออดีตสามีของลูกสาว ชื่อนาย อนุสรณ์ สุทธิประดิษฐ์ อายุ 50 ปี ที่เมื่อวานวันที่ 17 ธ.ค. 2564 ได้มาขนข้าวของออกจากบ้าน หลังจากได้เลิกรากับลูกสาวตนได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ซึ่งตนเองก็ยังคิดว่าเลิกรากันด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไรคาใจกันอีก หลังจากที่อยู่กินกันมากว่า 2 ปี
นางสุภาพร ยังกล่าวอีกว่า ลูกสาวเล่าให้ฟังว่านายอนุสรณ์ อดีตสามี ที่เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี เพื่อมาขนของออกจากบ้าน เขาพกอาวุธปืนมาโชว์ด้วย ไม่ทราบว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม ซึ่งจะพยายามมาง้อขอคืนดี แต่อดีตสามีที่อายุมากกว่า 27 ปี เป็นคนที่ชอบหึงหวง กล่าวหาลูกตนในทางที่ไม่ดี ว่าคบชู้ ซึ่งลูกสาวตนเบื่อหน่าย อายเพื่อนที่ต้องทนความหึงหวงของอดีตสามี จึงขอเลิกลาต่อกันด้วยดี เนื่องจากไม่ได้จดทะเบียนสมรส และไม่มีลูกด้วยกัน
ด้านนายประเวทย์ สุทธา อายุ 46 ปี หน.รปภ.ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 07.30 น. ผู้ตายได้จอดรถจักรยานยนต์ที่ลานจอด เดินเลาะเพื่อมาเข้าเวร โดยที่ไม่มีใครคาดคิดว่า อดีตสามีที่ดักรอได้ใช้อาวุธปืนไล่กระหน่ำยิง และ จ่อยิงแบบเผาขน จำนวน 5-6 นัด ก่อนค้นกระเป๋าผู้ตายคว้ากุญแจรถจักรยานยนต์ขับหนีไปอย่างลอยนวล ตนเองจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไล่ติดตามคนร้ายแต่ไม่พบ
ด้าน พ.ต.อ.กฤช แสงพล ผกก.สภ.พัฒนานิคม ซึ่งได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดงานสืบสวน สภ.พัฒนานิคม ชุดสืบสวน ภ.จว.ลพบุรี และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ จราจร กระจายกำลังกันค้นหา และตั้งจุดสกัดกดดันผู้ต้องหาโหดรายนี้อย่างเร่งด่วน จนเวลาประมาณ 10.25 น. ทางตำรวจ สภ.พัฒนานิคม ได้รับโทรศัพท์จากผู้ก่อเหตุว่าจะขอมอบตัวสู้คดี ซึ่งจากการตรวจสอบจากสัญญานโทรศัพท์ พบว่าอยู่บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กิโลเมตร จึงได้กระจายกำลังออกค้นหา จนพบว่า นายอนุสรณ์มาหลบพักอยู่ที่ โรงแรม รื่นรมย์ หมู่ที่ 6 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามเกลี้ยกล่อม ให้มอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทษหนักจะได้เป็นเบา ซึ่งมีการเจรจากันอยู่สักครู่นายอนุสรณ์กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าตนเองไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ทั้งพ่อแม่และครอบครัว ขอตายตามคนรักไป จนทางเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปืน จำนวน 1 นัดดังมาจากหห้องหมายเลข 1 จึงได้วางกำลังซึ่งคิดว่าคนร้ายยิงเปิดทาง แต่เมื่อเปิดประตูพบว่านายอนุสรณ์ใช้อาวุธปืน แบบไทยประดิษฐ์ บรรจุกระสุนขนาด .38 แบบหักลำยิงทีละนัดระเบิดขมับขวาบนที่นอนโรงแรม เลือดและมันสมองกระจายเกลื่อน ปืนตกอยู่ที่ปลายเตียง รถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาจอดอยู่ในโรงจอดโรงแรม
จากการสอบถามพนักงานโรงแรมทราบว่านายอนุสรณ์ได้มาเปิดห้องพักตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ค่าเช่าวันละ 300 บาท โดยเมื่อเช้าเห็นว่าเดินออกจากห้องพักไป โดยไม่ทราบว่าผู้ใดมารับ จนเวลาประมาณ 09.10 น. นายอนุสรณ์ได้ขี่จักรยานยนต์เข้ามาจอดก่อนเดินเข้าหักพักไป ซึ่งไม่ทราบว่าไปก่อเหตุมา ทั้งนี้ทราบว่านายอนุสรณ์เป็นชาว จ.กาฬสินธุ์ พ่อและแม่เสียชีวิตหมดแล้ว เคยทำงานอยู่ที่ อ.พัฒนานิคม จนได้มาพบรักกับ น.ส.ชลิตา ตกลงปลงใจอยู่กินฉันผัวเมียนานกว่า 2 ปี ซึ่งหลังจากได้เลิกลากันไปประมาณ 1 เดือนเศษ นายอนุสรร์อดีตสามี เดินทางไปทำงานที่ จ.ชลบุรี ก่อนหาปืนกลับมาลงมือก่อเหตุดังกล่าว
กฤษณ์ สนใจ จ.ลพบุรี