ภาพกล้องวงจรปิดภายในร้านโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่งย่านบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ได้บันทึกพฤติกรรมชายคนหนึ่ง ที่แต่งกายมิดชิด สวมหมวกแก๊ป และ สวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ซึ่งเข้ามาภายในร้านดังกล่าวลักษณะเป็นลูกค้ามาถามราคาโทรศัพท์ ก่อนที่จะให้พนักงานของร้านหยิบโทรศัพท์ ยีห้อ วีโว่ สีฟ้า ให้ผู้ก่อเหตุดูก่อนผู้ก่อเหตุจะหยิบโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวหันหลังวิ่งออกประตูหลบหนี โดยมีเจ้าของร้านวิ่งตามไปก่อนจะพ้นรัศมีของกล้องวงจรปิด โดยผู้ก่อเหตุได้วิ่งมาค่อมรถจักรยานยนต์ ยีห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีดำ ที่ใช้วัสดุต่าง ๆ ปิดบังหมายเลขทะเบียนที่จอดอยู่บริเวณข้างร้าน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนี แต่โชคดีที่เจ้าของร้านตามมาทัน และกระถีบผู้ก่อเหตุจนกระเด็นตกจากรถจักรยานยนต์ ก่อนที่จะมีการชุลมุนชกต่อยกันจนสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้ โดยมีเจ้าหน้าที่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บางพลี มารับตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนที่โรงพัก ส่วนเจ้าของร้านก็ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือหัก โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ผ่านมา ที่บริเวณร้านมือถือตรงข้ามห้างบิ๊กซี บางพลี ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
นายพิชัย นุ่มสำลี อายุ 41 ปี เจ้าของร้านใจเด็ด ได้เล่าว่า โดยพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุนั้น เคยมาที่ร้านแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นผู้ก่อเหตุไม่ได้โทรศัพท์ไป โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ผู้ก่อเหตุมา โดยผู้ก่อเหตุเข้ามาทำที่เป็นถามราคาแบบวกไปวนมา ให้เราหยิบเครื่องนั้นเครื่องนี้เพื่อให้เรางง ประกอบกับว่ามีลูกค้าเข้ามาอีกคนพอดี ตนเองจึงหันไปคุยกับลูกค้าที่มาใหม่ โดยมีลูกน้องคุยกับผู้ก่อเหตุอยู่ ผู้ก่อเหตุเห็นจังหวะที่ตนเองคุยกับลูกค้าอีกคนอยู่ ผู้ก่อเหตุจึงหยิบโทรศัพท์ ยีห้อวีโว่ รุ่น วาย 76 สีฟ้า ราคาเกือบ 9,990 บาท วิ่งหลบหนี้ ตนเองจึงวิ่งตามผู้ก่อเหตุ มาทันบริเวณข้างร้านที่กำลังค่อมรถจักรยานยนต์เตรียมขี่หลบหนี ตนเองจึงกระโดดถีบผู้ก่อเหตุจนตกรถจักรยานยนต์ และ สามารถจับตัวได้ก่อนโทรศัพท์เรียกเจ้าหน้าที่ โดยรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุนั้น ได้นำเอาเทปกาวมาปิดตัวเลขและตัวหนังสือไว้ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามได้ โดยผู้ก่อเหตุน่าจะตั้งใจมาก่อเหตุ เนื่องจากเตรียมการมาอย่างดี ส่วนตนเองก็ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วนางข้างซ้ายแตกตอนที่ต่อสู้กันต้องเข้าเฝือก
ขณะที่ผู้ก่อเหตุชื่อนายมันโซร์ ดะอาเซ็ง อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาส ได้ให้การรับว่า ตนจะไปทำงานเป็น รปภ. ย่านจรัญสนิทวงศ์ แต่และตนเองไม่มีโทรศัพท์ติดต่อใครได้ ตนจึงได้มาที่ร้านนี้มาแล้วครั้งหนึ่งจะมาก่อเหตุ แต่ไม่กล้าก่อเหตุ จนครั้งนี้ตนมีเงินที่จะซื้อโทรศัพท์ แต่ไม่มีเงินใช้จ่ายระหว่างที่ไปทำงาน จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว ส่วนรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ผู้ก่อเหตุอ้างว่าเป็นของเพื่อน พึ่งซื้อมือสองมา ส่วนที่ใช่ถุงดำปิดป้ายทะเบียน และ ส่วนสำคัญของรถ เพราะกลัวเจ้าหน้าที่ตามไปจับกุมตัวได้
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี พร้อมส่งตนพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ