วันที่ (24 ส.ค.65 ) พระมหาเจษฎากร เจ้าอาวาสวัดบึงสีไฟภัทราราม ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ที่เลี้ยงหมา-แมว เป็นเพื่อนจนมีความรักความผูกพันกับสัตว์เหล่านี้เหมือนลูกหลาน แต่ด้วยชีวิตสังคมคนเมืองเมื่อถึงเวลาที่หมา-แมวเสียชีวิตลง ถ้าบ้านหรือที่อยู่อาศัยพอมีพื้นที่ก็จะขุดหลุมฝังแต่บางครั้งกลิ่นของซากหมา-แมว ก็ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมกับเพื่อนบ้าน
ดังนั้นที่วัดบึงสีไฟซึ่งเป็นวัดเล็กๆตั้งอยู่ชานเมืองของเมืองพิจิตรจึงถูกผู้ที่เลี้ยงหมา-แมว แล้วต้องเสียชีวิตลง ขอร้องให้ช่วยเผาร่างของหมา-แมวซึ่งพระและกรรมการวัดก็ถือว่าภารกิจดังกล่าวเป็นงานสงเคราะห์จึงช่วยดำเนินการให้ด้วยการใช้วิธีหาฟืนหรือเศษไม้ทำเป็นกองฟอนแล้วก็นำร่างหมา-แมว วางบนแผ่นสังกะสีจากนั้นก็ใช้ฟืนหรือเศษไม้เป็นเชื้อไฟเผาซากหมา-แมวดังกล่าว แต่ก็มีหลายคนเข้าใจผิดว่าทางวัดบึงสีไฟใช้เมรุที่เผาศพมนุษย์เป็นที่ดำเนินการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง อีกทั้งเคยมีเหตุการณ์ในวันเดียวกันก็มีคนตายที่จะต้องทำพิธีฌาปนกิจศพ แต่ในเวลาเดียวกันก็มีเจ้าของหมา-แมว ที่เสียชีวิตนำร่างของ หมา-แมว จะมาเผาที่วัดทำให้ญาติของผู้ตายกับเจ้าของหมา-แมว เกิดการโต้เถียงกันถึงความไม่เหมาะสมว่าจะเอาหมา-แมว มาเผาพร้อมกับคนตายไม่ได้ซึ่งแท้ที่จริงแล้วทางวัดก็จัดการให้โดยแยกสถานที่กันอยู่แล้วแต่ญาติโยมที่เป็นญาติของผู้ตายไม่เข้าใจ
จากเหตุการณ์หลายๆเรื่องดังกล่าว จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ พระมหาเจษฎากร เจ้าอาวาสวัดบึงสีไฟภัทราราม ตัดสินใจสร้างเตาเผา หมา-แมว ให้เป็นกิจจะลักษณะ โดยจำลองการสร้างเชิงตะกอนที่ใช้เผาคนรวมถึงใช้อุปกรณ์เป็นอิฐทนไฟ-เหล็กทนไฟ สร้างเป็นเตาเผาแบบเชิงตะกอนขนาดกว้าง 90 ซม. สูง 1.20 เมตร ไม่มีปล่องควัน ใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 4-5 หมื่นบาท เพื่อเอาไว้บริการเผาร่าง หมา-แมว สัตว์เลี้ยงแสนรักเมื่อเขาได้เสียชีวิตลง สำหรับท่านใดที่จะใช้บริการสามารถโทรติดต่อได้ที่ พระมหาเจษฎากร เจ้าอาวาสวัดบึงสีไฟภัทราราม โทร 093-2396199
สำหรับท่านที่มีใจอันเป็นกุศลจะร่วมทำบุญบริจาคเงินเพื่อสร้างเตาเผา หมา-แมว สามารถโอนเงินทำบุญได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี วัดบึงสีไฟภัทราราม เลขที่บัญชี 610-074-933-5
สิทธิพจน์ เกบุ้ย จ.พิจิตร