“เต้” มงคลกิตติ์ พรรคไทยศรีวิไลย์ ลงพื้นที่อยุธยา ชมงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก รากเง้าของความเป็นไทย แฟนคลับแห่ขอถ่ายรูปคึกคัก มั่นใจเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น หลังการเลือกตั้งใหม่
วันที่ 22 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ นำโดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรแบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์-หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อม นางสาวภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรค,นายสรกฤช จันทรคณา โฆษกพรรค, นางสาว อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ โฆษกประจำตัว ส.ส.มงคลกิตติ์ฯ ,นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์ อมรเมตตาจิตต์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,นายอดิศร สังค์จันทร์ กรรมการบริหารพรรค เดินทางมาร่วมงาน ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยได้เดินชมการจัดร้านค้าของจังหวัดฯบนถนนกินเส้น ด้วยการแต่ชุดไทยโบราณ ก่อนเข้าชมงานแสง เสียง ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ในรอบที่ 2 ในเวลา 21.00 น. ซึ่งมีประชาชนที่มาเที่ยวงานต่างขอถ่ายรูป เซลฟี่ กันอย่างคึกคัก
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวว่า เห็นคนที่มาเที่ยวงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก คนเป็นหมื่นคนหลายหมื่นคนที่เดินทางมาที่พระนครศรีอยุธยา มีด้วยกันหลายจังหวัด รวมทั้งจังหวัดข้างเคียง ทั้งกรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี ก็มาภาคใต้ก็มา ได้มาชมความเป็นมาของกรุงศรีอยุธยาก่อนที่จะมาเป็นกรุงเทพฯ กรุงธนบุรี ก็ถือได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวภายในประเทศ เป็นการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ถือว่าเป็นการตื่นตัวให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทย ถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ในส่วนการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติในปี 2566 นี้ ก็จะกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่งในปี 2566 นี้มีมากกว่าปี 2562 ยี่สิบล้านคน ประมาณ 60 ล้านคน นักท่องเที่ยวในจุดนี้จะถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจมากพอสมควรถ้านักท่องเที่ยว 60 ล้านคน คนละแสนก็จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ 60 ล้านๆเหมือนกัน ซึ่งจะแปลเป็นภาษี vat นี่ 4 แสนกว่าล้าน รวมทั้งภาษีนิติบุคคล ก็จะทำให้สภาพรายได้ของประเทศไทยดีขึ้น กว่าที่เคยซบเซามาในช่วงโควิดช่วง 2 ปีครึ่ง เพราะฉะนั้นถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะทำให้สิ่งที่ประเทศไทย หรือประชาชนชาวไทย ธุรกิจท่องเที่ยวที่สูญเสียไปในช่วง 2 ปีครึ่งก็จะกลับคืนมาสู่สภาพเดิม จะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ชีวิตของประชาชนชาวไทยก็จะดีขึ้นปี 66 ไม่เกินวันที่ 7 พฤษภาคม เราก็จะได้รัฐบาลใหม่ ก็น่าจะมีสิ่งที่ดีๆสำหรับประชาชนชาวไทย ที่จะมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุด จากที่ติดกับดักมาระยะเวลา 8 ปีด้วยกัน ทุกอย่างก็จะดีขึ้น ก็ถือว่าเป็นการปกครองจากประชาชนเพื่อประชาชนอีกอย่างหนึ่ง
พรรคไทยศิวิไลย์ ก็เป็นอีกพรรคการเมืองหนึ่งที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ลงเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนี้ก็ฝากพี่น้องประชาชนชาวอยุธยา และ ประชาชนทั่วประเทศไทย ว่าพรรคไทยศรีวิไลย์ ส่งลงเลือกตั้งในระบบเขตไม่มาก แต่บัญชีรายชื่อสามารถเลือกได้ทุก 400 เขต และเราก็จะเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศเพราะพรรคเราไม่ได้ซื้อเสียงก็จะทำงานให้กับพี่น้องประชาชนตามที่ประชาชนมอบอำนาจอธิปไตยให้เต็มที่เต็มความสามารถในทุกๆเรื่องและนโยบายพรรคของเราก็จะทยอยออกไปในการแก้ปัญหาประเทศชาติและประชาชนที่ดีขึ้นตามลำดับ และ ก็เชื่อมั่นว่าหนี้สินที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สร้างขึ้นกว่า5.0 ล้านล้านน่าจะแก้ได้ประมาณสักครึ่งหนึ่งในช่วงระยะเวลา 4 ปี ถ้าประชาชนไว้วางใจ และ ก็เชิญชวนมาเที่ยวงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลกยังมีอีกหลายวันประมาณ 8 วันด้วยกัน เพราะว่าอยุธยามีอะไรหลายอย่างเราจะได้ซึมซับถึงรากเหง้าของฝืนแผ่นดินไทย เรามีประวัติศาสตร์เรามีรากเหง้า 700 กว่าปีถึง800ปี เรามีประเทศไม่เหมือนประเทศอื่น ที่เขาไม่มีพระมหากษัตริย์และเรามีพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด เพราะฉะนั้นรากเหง้าของเราก็คงตัดทิ้งไม่ได้แต่ก็ต้องมีความทันสมัยและร่วมสมัยในการเปลี่ยนผ่านที่จะทำให้คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่คนรุ่นกลางเดินทางไปได้อย่างมั่นคงเรียกง่ายๆว่าไพร่ฟ้าหน้าใสทุกอย่างก็คงจะดีขึ้นและผมเชื่อมั่นว่าจะดีขึ้นแน่นอน
นางสาวภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ มาในดรีมย้อนยุคการแต่งกายในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนปลาย เพราะเป็นสืบสานวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ของชนชาติไทยมากว่าเกือบ 800 ปี รวมทั้งมาชมการแสดงแสงสีเสียงตั้งแต่สถาปนากรุงศรีอยุธยา การเสียกรุงทั้ง 2 ครั้ง และ การกู้กรุงทั้ง 2 ครั้ง วันนี้มีประชาชนทั้ง จ.พระนครศรีอยุธยา จังหวัดใกล้เคียงรวมทั้ง ต่างจังหวัดไกลๆ มาเที่ยวชมงานกว่าวันละ 1-5 หมื่นคน มีการเปิดร้านบูทอาหารหลากชนิดในแต่ละอำเภอ โดยใช้เงินบาทปกติแลกเงินพดด้วงซื้ออาหาร มีอุโมงค์ไฟที่สวยงามมาก ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมทั้งคนไทย คนต่างชาติ ซึ่งหลังจากซบเซามากว่า 2 ปีครึ่ง ในสถานการณ์โควิด และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 66 น่าจะแตะ 60 ล้านคน/ปี จะมีเงินเข้ามาในประเทศถึง 6.0 ล้านล้านบาท เป็นภาษีเข้ารัฐกว่า 4-5 แสนล้านบาท/ปี ก็จะทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวกลับมาพลิกฟื้นอีกครั้ง รวมทั้งสถานะการเงินภายในประเทศไทยก็จะดีขึ้น
ยุพิน ศรีสกุล ผู้สื่อข่าว จ.พระนครศรีอยุธยา