วันที่ (24 มิ.ย.65 ) นายวัลลพ สาลี ประธานศูนย์ประสานงานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ ในมูลนิธิเมาไม่ขับ จังหวัดปทุมธานี ได้ร่วมรณรงค์เมาไม่ขับที่บริเวณหน้าทำการอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานีโดยมี เหยื่อเมาแล้วขับนั่งรถวีลแชร์รวมขบวนกับ ปภ.จังหวัดปทุมธานี , เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.หนองเสือ อบต.เทศบาลและกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง เจ้าหน้าที่คุมประพฤติ และคณะครูนักเรียน ลูกเสือเนตรนารี เดินถือแผ่นป้ายเม่าไม่ขับและแจกใบปลิวรณรงค์ เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน ที่เกิดจากการดื่มสุราผู้ร่วมขบวนร่วม 200 คนโดยเปิดเผยว่าที่ผ่านมามีการรับร้องเรียนเรื่องร้านเหล้าผับบาร์เปิดเกินเวลาในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเป็นจำนวนมาก จึงอยากให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้มงวดให้มากกว่านี้
นายวัลลพ สาลี ประธานศูนย์ประสานงานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ ในมูลนิธิเมาไม่ขับ จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้าจากเมาแล้วขับ ทำให้กระดูกต้นคอแตกจนเป็นอัมพาตตั้งแต่หน้าอกลงไปถึงปลายเท้า ปัสสาวะตลอดเวลาต้องใส่สายสวน จากอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ตนเองตระหนึกถึงผลกระทบจากการเมาสุรา จึงได้รวมรณรงค์กับมูลนิธิเมาไม่ขับ จนมาเป็นประธานศูนย์ประสานงานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับของจังหวัดปทุมธานี เมื่อเช้าที่ผ่านมาร่วมรณรงค์กับอำเภอหนองเสือที่โรงเรียนวัดราษฎรบำรุง คลองสิบ มีหน่วยงาน ปภ. เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.หนองเสือ อบต.เทศบาลและกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง เจ้าหน้าที่คุมประพฤติ และคณะครูนักเรียน เรามีความตั้งใจปลูกจิตสำนักเด็กและเยาวชนให้ตระหนึกถึงพิษภัยที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อดื่มแล้วขับรถก็อาจจะพิการเหมือนพวกเราก็ได้
ส่วนที่ทางราชการที่จะปล่อยให้ร้านเหล้าเปิดไปถึงตีสอง ผมมองว่าไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะร้านเหล้ารอบๆมหาวิทยาลัย ไม่ใช่ได้แค่เรื่องดื่มเหล้า เมื่อเหล้าเข้าปากก็จะมีเรื่องของการขับรถ และก็จะเกิดอุบัติเหตุไม่ตายก็พิการ เด็กจะมีที่มั่วสุมได้ง่าย หาเหล้าดื่มง่าย เมื่อจะมีการเปิดถึงตีสองก็ยิ่งแย่ ผมมองว่าสถานการณ์โควิด-19 ก็ยังไม่นิ่ง 100 เปอร์เซ็นต์ หากเปิดก็อาจจะดีกับคนที่ทำงานกลางคืนขายเหล้าขายเบียร์ แต่น่าจะชะลอไปอีกอย่างน้อยถึงปีใหม่ เท่าที่ทราบยังไม่มีการเฝ้าระวังและออกกฎควบคุมตรงไหนออกมารองรับเลย ขณะนี้ร้านเหล้าต่างๆ เริ่มเปิดกันเป็นปกติแล้วโดยเฉพาะร้านเหล้ารอบ ๆ มหาวิทยาลัยอย่างที่เราเห็นตามสื่อโซเซียลต่าง ๆ และภาพที่ถูกส่งมาร้องเรียนซึ้งขนาดปัจจุบันนี้มีการร้องเรียนมาทางเราว่ามีการเปิดเกินเวลาด้วยบ้างที่เกือบตี2 ซึ่งขนาดการเปิดและปิดตามเวลาก็มีปัญหาอยู่แล้วสารพัดทั้งการมั่วสุมยาเสพติด การเมาแล้วขับรถต้องมีอยู่แล้ว เพราะจะไปร้านเหล้าก็ต้องขับรถไปเวลากลับก็ต้องขับรถกลับ ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ หากเป็นไปได้ขอให้มีการเข้มงวดกับร้านเหล้า ผับบาร์ทุกแหล่งให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ปล่อยให้ล่วงเวลาไป แล้วไปส่งผลกระทบกับบุคคลทั่วไป
ส่วนเรื่องที่ได้รับร้องเรียนมานั้น พบว่ามีการเปิดร้านเหล้าเกินเวลา รวมถึงมีการมั่วสุมยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เราเองในฐานะที่เคยได้รับข้อร้องเรียนต่าง ๆ เหล่านี้ ก็อยากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีของเรา เฝ้าระวังและเข้มงวดกับร้านเหล้าและผับบาร์ที่เปิดเกินเวลา เพื่อเป็นการป้องกันเยาวชนของเราไม่ให้หลงผิดติดยาเสพติดได้ ซึ่งจะมีอำเภอที่น่าเป็นห่วง คือ อำเภอธัญบุรี ที่มีมหาวิทยาลัยใหญ่ ๆ อยู่ในพื้นที่ อำเภอคลองหลวงที่ใกล้กับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอำเภอเมืองปทุมธานี ทั้ง 3 อำเภอนี้เป็นแหล่งเศรษฐกิจและมีสถานศึกษา มีการร้องเรียนมาบ่อยครั้ง จึงอยากให้เฝ้าระวังอย่างมากเพื่อเยาวชนของเรา
อนันต์ วิจิตรประชา ผู้สื่อข่าว จ.ปทุมธานี
