เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ ( 3 เม.ย.65 ) พ.ต.ต.อดุล เจริญมงคล สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุกระชากสร้อยคอทองคำ ภายในซอยเพชรหึง 26 หมู่ 11 ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงแจ้ง พ.ต.ท.ตุลชัย สมใจ รักษาราชการแทน รอง ผกก.สืบสวน สภ.พระประแดง สมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ภายในร้านขายของชำริมถนน พบนางสาวเวฬุรีย์ ดิษยเฉลิมวงศ์ อายุ 32 ปี มีแผลถลอกตามร่างกาย ภายในมือกำสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ซึ่งขาดหายไปบางส่วน จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณนั้น ปรากฏภาพ คนร้าย สวมหมวกกันน็อกครึ่งใบสีดำ สวมแมสสีดำมีลวดลายสีขาว สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า พีซีเอ็ก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ด้วยความเร็ว โดยมีผู้เสียหายกับแฟนหนุ่มขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมา พอคนร้ายขี่รถมาถึงทางโค้งได้กลับรถ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้เสียหายมาพอดี ผู้เสียหายได้ขับพุ่งตรงไปเพื่อจะชนคนร้าย แต่พลาดล้ม ส่วนคนร้ายได้ขับขี่รถหนีกลับไปทางเดิมอย่างรวดเร็ว
จากการสอบถามนางสาวเวฬุรีย์ ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนได้ขับรถออกมาจากวัดบางน้ำผึ้งนอก กำลังจะขับรถไปท่าเรือข้ามฟากวัดบางน้ำผึ้งนอก ก่อนหน้าที่ตนกำลังจะออกจากวัดบางน้ำผึ้งนอก ก็สังเกตเห็นรถคนร้ายจอดอยู่ใกล้ ๆ กัน แต่ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร ตอนนั้นคนร้ายก็ขับรถออกไปก่อน ตนก็เลยขับออกมาจนถึงบริเวณหน้าฟาร์มเห็ดช่างแดง ก็ขี่กันมาช้า ๆ ชิดเลนซ้าย กำลังพูดคุยกัน ก็เห็นคนร้ายขี่รถมาประกบ แล้วได้เอามือมาดึงเสื้อคลุมของตน ก่อนจะจับสร้อยคอทองคำที่ตนใส่อยู่ ตนจึงได้รีบจับที่สร้อยคอก่อนที่คนร้ายจะกระชาก เพื่อไม่ให้คนร้ายเอาสร้อยคอไปได้ แต่คนร้ายก็กระชากจนสร้อยคอขาดได้ไปประมาณคืบเดียว ส่วนที่เหลือทั้งสร้อยคอและพระยังอยู่กับตน หลังจากโดนกระชากสร้อยคอแฟนหนุ่มที่เห็นคนร้ายขี่รถหนีไปทางวัดบางน้ำผึ้งนอก แฟนหนุ่มจึงได้ขี่รถตามไปเป็น พอมาถึงทางโค้งคนร้ายกำลังกลับรถ ตนก็เลยบอกให้แฟนหนุ่มขี่รถพุ่งชนรถคนร้าย แต่ก็ไม่ทันคนร้ายได้กลับรถหลบทัน ตนกับแฟนก็เสียหลักล้มลง และคนร้ายก็ขี่รถหลบหนีมุ่งหน้าไปทางปากซอยเพชรหึง 26 ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นบางส่วนของสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ที่ขาด ส่วนที่เหลืออยู่กับตนทั้งสร้อยคอทองคำและพระ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า คนร้ายน่าจะเฝ้าสังเกตผู้เสียหายตั้งแต่ที่จอดรถแล้ว แต่พอผู้เสียหายหันไปเห็นจึงแกล้งทำเป็นขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป โดยไปหลบรออยู่ด้านหน้า ซึ่งในจังหวะที่ผู้เสียหายขี่รถช้าอยู่ในเลนซ้าย คนร้ายจึงได้ขี่รถไปประกบ ก่อนจะลงมือกระชากสร้อยคอทองคำที่ผู้เสียหายใส่อยู่ แล้วพยายามหลบหนีผู้เสียหายที่ขี่รถตามมา พอมาถึงทางโค้งคนร้ายได้กลับรถเพื่อกลับออกไปทางปากซอย ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้เสียหายขี่รถตามมาถึงและจะพุ่งชน คนร้ายได้หักหลบก่อนที่รถของเสียหายจะเสียหลักล้ม คนร้ายอาศัยจังหวะนี้เร่งเครื่องหลบหนีไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบกล้องตามเส้นทาง เพื่อติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สุรศักดิ์ คงสินธ์ / ธนวัต นาคขำ จ.สมุทรปราการ