สุพรรณบุรี-นายอำเภอสามชุกนำทีมดับไฟไหม้ไร่อ้อยหลังมือบอนลอบเผาวอดกว่า 50 ไร่

สถานการณ์ไฟไหม้ไร่อ้อยพื้นที่สุพรรณบุรี ยังมีต่อเนื่องล่าสุดเมื่อคืนวันที่  5 กุมภาพันธ์ ได้มีคนร้ายลอบวางเพลิงเผาไร่อ้อย พื้นที่  หมู่ที่ 10 และ หมู่ที่ 14 ตำบลวังลึก อำเภอสามชุก หลังเกิดเหตุนายอำเภอสามชุก ได้นำกำลังฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ท้องถิ่น เข้าดับไฟก่อนลามเข้าไหม้บ้านเรือนชาวบ้าน ได้ทัน 

วันที่ (6 ก.พ.68) เวลา 09.00 น. นายสุระบัณฑิต กันยานะ นายอำเภอสามชุก ได้รับรายงานเหตุไฟไหม้ไร่อ้อย  พื้นที่ หมู่ที่ 10 และ หมู่ที่ 14 ตำบลวังลึก อำเภอสามชุก จึงรีบเดินทางไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.นำรถดับเพลิงรุดไปช่วยดับไฟ  ที่เกิดเหตุพบมีไฟกำลังโหมลุกไหม้ไร้อ้อย ทั้ง 2 แปลงอย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่จึงรีบช่วยกันฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วจึงสามารถดับไฟเอาไว้ได้ แต่ไร่อ้อยถูกไฟเผาหมดทั้งแปลง หลังจากเพลิงสงบนายอำเภอได้เดินทางกลับพร้อมสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่มีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น  และเมื่อเวลา 09.00 น.นายอำเภอสามชุก ได้มอบหมายให้นายธนคม หอมหวล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง สมาชิกกองร้อยอส.อ.สามชุกที่ 9 ร่วมกับผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลวังลึก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามชุก ลงพื้นที่ติดตาม/หาข่าวกรณีการลักลอบจุดไฟเผาไร่อ้อยในพื้นที่ หมู่ที่ 10 และ หมู่ที่ 14 ตำบลวังลึก เมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.68)ที่ผ่านมา

จากการลงพื้นที่พบ เจ้าของไร่อ้อย  จึงได้สอบถามโดยเจ้าของกล่าวว่าตนมิได้มีการเผา และอาจมีผู้ลักลอบเผาในพื้นที่ของตน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้เจ้าของพื้นที่ไปดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์และลงบันทึกประจำวัน ที่สถานีตำรวจภูธรสามชุก  สำหรับความเสียหายจากกรณีดังกล่าว ซึ่งมีต้นไม้ของพื้นที่ข้างเคียง เจ้าของไร่อ้อย บอกยินยอมจะชดใช้ให้ทั้งหมดและได้มีการเจรจากันระหว่างเจ้าของไร่อ้อย กับเจ้าของต้นไม้ผู้เสียหาย และทางผู้เสียหายไม่ประสงค์เรียกร้องค่าเสียหายแต่อย่างใด แต่ขอให้เจ้าของไร่อ้อย ระมัดระวังให้มากกว่านี้ครั้งนี้นับว่าโชคดีที่นายอำเภอสามชุก นำกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าช่วยดับไว้ได้ทันก่อนที่ไฟจะลุกลามไปมากกว่านี้

นายสุระบัณฑิต กันยานะ นายอำเภอสามชุก  เปิดเผยว่าตนได้ติดตามการแจ้งข้อมูลทางโซเชียลมีเดียร์ ทราบว่ามีเหตุการณ์ไฟไหม้ขึ้นที่ 10 และ หมู่ที่ 14 ตำบลวังลึก  ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเรือนประชาชน จึงประกอบกำลังกับทางท้องที่ท้องถิ่นมาช่วยกันดับ ซึ่งก็เหมือนเคยหาคนเผาไม่เจอ ดังนั้นช่วงเช้าจึงให้ฝ่ายปกครอง กำนันผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่หาข้อมูล ว่าใครเป็นเจ้าของไร่ออ้อย ที่เกิดเหตุ ให้ทำความเข้าใจกับเจ้าของไร่ถ้าไม่ได้เผาจริง ก็ให้ช่วยระมัดระวังป้องกันบ้านข้างเคียง ด้วยเพราะเขาได้รับผลกระทบ ถ้าเกิดบ้านถูกไฟไหม้ทรัพย์สินเสียหายแล้วใครจะเป็นคนรับผิดชอบ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ทำให้มีทรัพย์สินต้นไม้ของชาวบ้านเสียหายทางเจ้าของไร่อ้อย ยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้ ซึ่งจุดที่เกิดไฟไหม้ มี 2 จุดคือ หมู่ 10 และหมู่ 14 เจ้าของไร่อ้อย เป็นเจ้าเดียวกัน ความเสียหายประมาณ 60 ไร่ ถามว่าทำไมไร่อ้อยถึงถูกไฟไหม้น้อย เป็นเพราะเราได้จัดกำลังมีการเฝ้าระวังเหตุเตรียมความพร้อมทั้งบุตลากรและอุปกรณ์ตลอด ซึ่งตนก็ได้มาช่วยดับไฟด้วย ดังนั้นขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ว่ามิให้มีการเผาทุกชนิด เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ ในขณะนี้

ภัทรพล  พรมพัก  จ.สุพรรณบุรี 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

อยุธยา-สสจ.กรุงเก่า ชี้แจงพบหญิงอายุ 36 ปี มีน้ำหนัก 300 กก. แน่นหน้าอกหายใจไม่ออก นำส่งรพ.เข้ารักษาตัว

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชี้แจงจากก […]

You May Like

Subscribe US Now