เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เตรียมรับน้ำเหนือด้วยการระบายน้ำลงสู่ท้ายน้ำ แต่จะให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุดและได้ประสานเขื่อนเจ้าพระยาตามแผนบริหารจัดการน้ำ
วันที่ (29 ก.ย. 67) สำหรับการติดตามการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี โดยพบว่าในวันนี้ ยังคงมีน้ำที่ไหลมาตามแม่น้ำป่าสัก จากจังหวัดเพชรบูรณ์ ไหลเข้าในตัวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 36.698 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งส่งผลทำให้ปริมาณน้ำที่เก็บกักในตัวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ขณะนี้มีปริมาณ 601.46 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือคิดเป็นร้อยละ 62.65 % เพิ่มจากเมื่อวานที่ผ่านมา ขณะที่ได้มีการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนฯผ่านทางประตูระบายน้ำที่เปิดทั้ง 7 บานจำนวน 22.506 ล้านลูกบาสก์เมตร
ทั้งนี้ในการระบายน้ำไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ทางด้านท้ายเขื่อนฯ นอกจากนี้ยังได้มีการประสานงานกับการระบายของเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท หากมีการระบายน้ำเพิ่มขึ้นก็ได้มีการประสานไปยังกลุ่มผู้ใช้น้ำและผู้นำท้องถิ่นที่ทางด้านท้ายน้ำ เพื่อจะได้มีการเตรียมการรับมือน้ำล้นตลิ่งเป็นการลดการสูญเสียในทรัพย์สินต่าง ๆ สำหรับในการระบายน้ำเพิ่มขึ้นในช่วงนี้เป็นการเตรียมการรองรับน้ำเหนือที่ยังคงมีปริมาณไหลลงมาเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีน้ำจากฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเลยที่เป็นต้นน้ำของแม่น้ำป่าสักและมีปริมาณฝนตกในพื้นที่ขังหวัดเพชรบูรณ์ด้วย
ด้านนายสุเมธ ศรีน้อย อายุ 34 ปี หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม ลพบุรีผู้ที่อยู่ท้ายเขื่อนฯ อาชีพเกษตรกร กล่าวว่าตนเองเคยประสบอุทกภัยเมื่อปี54 โดยครั้งนั้นตนเองและชาวบ้านไม่คาดคิดว่าน้ำจะมากจนทำให้ท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรได้ครั้งนั้นเป็นบทเรียนให้ระมัดระวังและต้องรับฟังประกาศการแจ้งเตือนจากหน่วยงานรับผิดชอบในครั้งนี้ตนเองไม่คิดว่าน้ำจะมากกว่าปี 54 และเขื่อนป่าสักฯ ยังคงเก็บกักน้ำได้อีกมาก ไม่รู้สึกกังวลอีกทั้งทางหน่วยงานรับผิดชอบได้ออกประกาศเตือนให้ประชาชนทราบอยู่ตลอดเวลาหรือหากมีเหตุการณ์น้ำล้น น้ำหลากก็มีความพร้อมในการรับมือไว้แล้ว
กฤษณ์ สนใจ จ.ลพบุรี