อยุธยา-สาวไซด์ไลน์ร้องเพจสายไหมฯ ถูกชายอ้างเป็นตำรวจ หลอกอึ๊บฟรี แถมรีดเงิน 2 หมื่น แลกไม่ดำเนินคดีค้าประเวณี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ (29 สิ.ค.67) ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ก่อตั้ง เพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน พา นางสาว เอ ( นามสมมุติ ) อายุ 27 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา แจ้งความดำเนินคดี กับชาย 4 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ ซื้อบริการแล้วไม่จ่ายเงิน แถมยังถูกข่มขู่รีดทรัพย์

นายเอกภพฯ  กล่าวว่าได้รับการร้องเรียนจาก น้องผู้เสียหาย ว่าเมื่อวันที่ 26 ต่อเนื่องวันที่ 27 สิงหาคม ได้รับการติดต่อจากชายคนหนึ่งให้มาเอ็นเตอร์เทรน และไปร่วมหลับนอนด้วยกันนัดหมายเจอกันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ฝ่ายชายจ่ายเงินให้กับน้องผู้หญิง จำนวน 1,500 บาท จากนั้นมีเพศสัมพันธ์กันจนเสร็จ ฝ่ายชายได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเงินคืน น้องผู้หญิงรู้สึกแปลกใจทำไมถึงขอเงินคืน เพราะมีเพศสัมพันธ์กันแล้วตามที่ตกลงราคากัน โดยฝ่ายชายอ้างว่าอวัยวะเพศไม่แข็งตัวไม่เสร็จ น้องผู้หญิงไม่ยอมคืนเงิน ฝ่ายชายจึงอ้างว่าจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาค้าประเวณี จากนั้นชายคนดังกล่าว ได้โทรหาเพื่อนที่อยู่ห้องข้างๆ ซึ่งพาหญิงสาวอีกคนมาเหมือนกัน จากนั้นพาตัวน้องผู้หญิงไป ที่หน่วยปฎิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีชายอีก 3 คนอยู่ในห้อง ด้วยความกลัว จึงยอมคืนเงินจำนวน 1,500 บาท แต่ชายที่อ้างเป็นตำรวจไม่ยอม  โดยบอกว่า ถ้าไม่ให้ดำเนินคดี ขอเงิน20,000 บาท น้องผู้หญิงจึงบอกไปว่าไม่เงินมากถึง 20,000 บาท ที่มาทำงานแบบนี้เพราะต้องหาเงินไปเลี้ยงลูกและดูแลครอบครัว และครอบครัวก็ไม่รู้เรื่อง  พร้อมกับบอกว่าให้ส่งดำเนินคดีเลยเพราะข้อหาค้าประเวณีเป็นโทษปรับ ชายคนดังกล่าว บอกว่า มึงรู้มาก จึงข่มขู่ให้โทรตามญาติมา น้องผู้หญิงเกิดความกลัวเพราะไม่อยากให้ญาติรู้ว่าทำงานแบบนี้ จึงมีการต่อรองกันจาก20,000 บาทเหลือ 5,000 บาท จ่ายเป็นเงินสดจำนวน 4,000 บา และโอนเงินเข้าบัญชีอีก 1,000 บาท หลังจ่ายเงินยังมีการข่มขู่น้องผู้หญิงว่า ต้องมีการจ่ายเป็นรายเดือนด้วย ยังมีความพยายามจะเอาตัวน้องผู้หญิง ไปให้ชายคนอื่นหลับนอนด้วย แต่ไม่ได้ไป

หลังจากนั้นยังมีการข่มขู่หลายครั้ง จนน้องผู้หญิงมีความกลัวจึงมาร้องเรียนกับทาง เพจสายไหมต้องรอด จึงได้ประสานกับทาง พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ท่านได้ให้รีบพาผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี  เพื่อสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงหากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด    หลังจากที่พาตนเองจากโรงแรมมาที่ห้องทำงาน ซึ่งเป็นหน่วยสวาท หรือหน่วยพิเศษ เพราะตนเองไม่เคยมา มีการแยกตนเองเข้ามาอีกห้องกลุ่มชายทั้ง 4 คน เดินเข้าออกห้องหลายครั้งเหมือนการออกไปพูดคุยกัน ด้วยความกลัวที่มีการข่มขู่ ตนเองกลัวว่าทางบ้านและครอบครัวจะรู้ว่ามาทำงานหารายได้แบบนี้ จึงยอมตกลงจ่ายเงินไป ถ้าเป็นการล่อซื้อจริงๆน่าจะมีการแสดงตัวตั้งแต่แรกของการจ่ายเงิน แต่หลังจากมีเพศสัมพันธ์เสร็จแล้ว กลับมาเรียกขอเงินคืน  พอไม่คืนจึงแสดงตัวจะจับกุมมันผิดปกติ พร้อมกับแสดงบัตรว่าเป็นตำรวจ และมีการพูดคุยกับเพื่อนอีกห้องด้วย และ พาตนเองมาที่หน่วยสวาท บอกว่าพี่จะต้องจ่ายเงินให้นายด้วยขอ 20,000 บาท มีการข่มขู่หลายอย่างจนเพื่อนอีกคนที่มารับงานด้วยกันกลัว จึงยอมจ่ายเงินด้วย   ระหว่างที่มีการพูดคุยกันมีการยึดโทรศัพท์ด้วย

ด้าน พ.ต.อ เอกราช อุ่นเจริญ รอง ผบก. ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายและคุ้มครองพยาน จากการฟังคำบอกเล่าของผู้เสียหาย สิ่งที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนเป็น 2 ส่วนๆแรกจะต้องดำเนินคดีในเรื่องของคดี ค้าประเวณีซึ่งเป็นฐานความผิดเกี่ยวกับ การป้องกันและปราบรามการค้ามนุษย์ ต้องมีเจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาร่วมในการสอบสวนด้วย และในส่วนที่ 2 จะต้องสอบสวนสืบสวน กลุ่มบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องสืบทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงหรือไม่ หากเป็นตำรวจเป็นการกระทำความผิดส่วนตัวหรือใช้อำนาจหน้าที่ ในการกระทำความผิด จะมีข้อหาที่แตกต่างกันตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ จากคำบอกเล่าเรื่องสถานที่พาน้องผู้หญิงไป จะมีหลักฐานปรากฏ รวมถึงเรื่องของการจ่ายเงินที่มีการโอนเงิน การสืบสวนจะเริ่มต้นทันทีหลัง  จากนี้ขอยืนในเรื่องของการให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย จากนั้นได้มีการพา นางสาว เอ ผู้เสียหาย ไปชี้จุดที่ ห้องพักของโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา นำชี้จุดต่างๆได้อย่างแม่นยำ เจ้าหน้าที่มีการเก็บภาพจากกล้อง วงจรปิดภายในโรงแรมไปด้วย จากนั้น นางสาว เอ ผู้เสียหาย พาไปชี้จุดที่ถูกควบคุมตัวมาที่ อาคารหน่วยปฎิบัติการพิเศษ ของ กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา อยู่ด้านหลัง ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำพาชี้จุดที่มีการนั่งพูดคุยเจราต่อรอง เรียกรับเงิน โดยหลังจากนี้ นางสาว เอ ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อทำการสอบสอบสวนถึงเรื่องราวดังกล่าวอย่างละเอียดตามขันตอนกระบวนการของกฎหมาย

สุรัตน์  ชัยกุลเทวินทร จ.พระนครศรีอยุธยา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Next Post

สมุทรสงคราม-โค้งสุดท้ายก่อนหวยออกชาวบ้านขนลุกเจ้าแม่ประดู่ให้โชค

วันที่ (1 ก.ย.67)ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ้านปรกแห่ขอเ […]

You May Like

Subscribe US Now