ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า ที่ เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี คนที่ 19 แห่งราชอาณาจักรไทย ประธานคณะกรรมการกลางอิสลาม แห่งประเทศไทย ได้มอบหมายให้นายประดิษฐ์ รัตนโกมล รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักจุฬาราชมนตรี ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ดร.กำนันธวัชชัย นิมา ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน 25 จังหวัดภาคกลางและนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านพระนครศรีอยุธยา เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาอิสลาม พร้อมกับมอบสิ่งของอุปกรณ์ที่จำเป็นในการประกอบศาสนกิจของผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาอิสลาม มีโสร่ง 400ผืน ผ้าปูละหมาด 100ผืน ตะลากง ผู้หญิง 20ชุด เพื่อใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม (ระหมาด) พร้อมด้วย นายเสกสรร ถนอมกิตติ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา , นายเดชาธร เชาว์เลขา นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา ตัวแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะกรรมการอิสลามจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายเทวพงศ์พันธ์ เมืองยม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ให้การต้อนรับ
นายประดิษฐ์ รัตนโกมล รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักจุฬาราชมนตรี ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เมื่อ 5 เมษายน 2567 ที่ผ่านมานายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี คนที่ 19 แห่งราชอาณาจักรไทย ประธานคณะกรรมการกลางอิสลาม แห่งประเทศไทย เดินทางมาร่วมงานละศีลอด เดือนรอมฏอน ปี ฮ.ศ.1445 เปิดโครงการ “Mahabbah Ramdan” อ้อมกอดแห่งรอมฏอน สู่เรือนจำพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายวันมูหะมัด นอร์มะทา ประธานรัฐสภาฯ , พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ,นายดำรง พุฒิตาล ที่ปรึกษาประธานรัฐสภาและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ได้มีผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาอิสลาม ได้ร้องขอสิ่งของอุปกรณ์ที่จำเป็นในการประกอบศาสนกิจ นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี คนที่ 19 จึงได้ประสานผ่านมาทางดร.กำนันธวัชชัย นิมา ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน 25 จังหวัดภาคกลางและนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านพระนครศรีอยุธยา ให้ดำเนินการหาสิ่งของตามที่ผู้ต้องขังร้องขอและไม่ผิดระเบียบของกรมราชทัณฑ์ นำมามอบให้กับผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาอิสลาม ในการประกอบพิธีทางศาสนา ในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
หากเมื่อผู้ต้องขังมีจิตสำนึกดีที่จะเข้าถึงพระเจ้า และให้คำมั่นสัญญาต่อพระเจ้าว่าเมื่อพ้นโทษไปแล้วจะไม่หวนกลับมากระทำความผิดอีก ก็ให้การสนับสนุนผู้ที่สำนึกผิด การ ละหมาด หรือ นมาซ หรือเรียกกันในภาษามลายูปัตตานีว่า มาแย คือการนมัสการพระเจ้า อันเป็นศาสนกิจอย่างหนึ่งในศาสนาอิสลาม เพื่อแสดงถึงความเคารพสักการะ ความขอบคุณ และความภักดีต่ออัลลอฮ์ โดยทั่วไปการละหมาดคือการขอพร การละหมาดจะกระทำ 5 เวลา ได้แก่ ยามรุ่งอรุณ (ซุบฮี), ยามบ่ายช่วงตะวันคล้อย (ดุฮรี), ยามเย็น (อัศรี), ยามอาทิตย์ตกดิน (มัฆริบ) และยามค่ำคืน (อิชาอ์) ซึ่งการละหมาดทุกครั้งจะต้องหันหน้าไปทางทิศกิบลัตในเมืองมักกะฮ์