“พาณิชย์” เดินหน้าลดค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน จัดงานธงฟ้าราคาประหยัด จ.นครพนม นำสินค้าจากผู้ประกอบการ ห้าง เกษตรกร SMEs วิสาหกิจชุมชน และเครือข่ายธุรกิจ Biz Club รวม 10 หมวดสินค้า กว่า 1,000 รายการ ลดสูงสุด 60% เผยมีสินค้าไฮไลต์ ทั้งไข่ไก่ น้ำตาล น้ำมันปาล์ม ข้าวหอมมะลิ หมูเนื้อแดง ไก่ มะม่วงและมะนาว จำหน่ายทุกวันด้วย
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบให้เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์) เข้าร่วมพิธีเปิดงานในครั้งนี้ ซึ่งกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้นำนโยบายของรัฐบาลในการช่วยลดภาระค่าครองชีพมาขับเคลื่อน โดยได้จัดงานธงฟ้าราคาประหยัด จังหวัดนครพนม ระหว่างวันที่ 26 – 28 เมษายน 2567 ณ โรงเรียนบ้านนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม และได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ห้างสรรพสินค้า กลุ่มเกษตรกร ผู้ผลิตรายกลางและรายย่อย (SMEs) วิสาหกิจชุมชน และเครือข่ายธุรกิจ Biz Club รวมทั้ง ผู้ประกอบการจังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง นำสินค้าอุปโภคบริโภคมาจำหน่ายรวม 10 หมวด กว่า 1,000 รายการ ลดสูงสุด 60% อาทิ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ซอสปรุงรส น้ำยาซักผ้า ของใช้ประจำวัน เครื่องแต่งกาย เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว อุปกรณ์ช่าง สินค้าชุมชน เป็นต้น
ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการจำหน่ายสินค้าไฮไลต์ และสินค้าผลไม้ที่เชื่อมโยงจากกลุ่มเกษตรกร ในราคาพิเศษทุกวัน อาทิ ไข่ไก่เบอร์ 2 แผงละ 95 บาท น้ำตาลทราย กิโลกรัมละ 22 บาท น้ำมันพืชปาล์ม ขวดละ 40 บาท ข้าวหอมมะลิ (5 กก.) ถุงละ 150 บาท หมูเนื้อแดง กิโลกรัมละ 90 บาท ไก่น่องสะโพก กิโลกรัมละ 60 บาท มะนาว ลูกละ 3 บาท มะม่วงน้ำดอกไม้ กิโลกรัมละ 40 บาท และมะนาวผงถุงละ 20 บาท “ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนใน จ.นครพนม และจังหวัดใกล้เคียง มาเลือกซื้อสินค้าราคาประหยัด โดยมีสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพครบถ้วน ทั้งของกินของใช้ และผักผลไม้ตามฤดูกาลจากเกษตรกร และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วย ลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนได้ตามเป้าหมาย”
นายไชยา กล่าวว่า ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการจัดงานธงฟ้าราคาประหยัด ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในการช่วยบรรเทา ความเดือดร้อนและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และยังเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตรายกลางและรายย่อย (SMEs) กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเครือข่ายธุรกิจ Biz Club ทำให้ประชาชน มีทางเลือกในการจับจ่ายใช้สอย ผู้ประกอบการมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้า พัฒนาศักยภาพการผลิตสินค้าเกษตรและการส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นการส่งเสริมสนับสนุนสินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นและสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจฐานรากของประเทศด้วย
ประทีป วชิระธัญญากุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดนครพนม