วันที่ (9 ส.ค.66 )ที่ห้องประขุมชั้น 4 สำนักงานเทศบาลบางม่วง กลุ่มชาวบ้านที่เป็นเจ้าของรถกว่า 50 ราย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากยางมะตอยบนพื้นถนนกระเด็นเปอะเปื้อนรถทำให้ได้รับความเสียหาย มาร้องขอความเป็นธรรมกับทางเทศบาลบางม่วงให้ช่วยเป็นคนกลางประสานไปทางสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี(อบจ.)เพื่อขอให้ความช่วยเหลือเยียวยา สืบเนื่องจากทางสำนักงานองค์การบริหารจังหวัดนนทบุรี (อบจ.) ได้ว่าจ้างให้บริษัทผู้รับเหมาทำการปรับปรุงผิวถนนเส้นเลียบคลองปะปาระยะทาง 2.46 กิโลเมตร โดยโครงการปรับปรุงพื้นผิวถนนเป็นแอลฟัสต์ แต่ระหว่างเข้าดำเนินการปรับผิวหน้าพื้นถนนมีการราดยางมะตอยในชั้นแรก แต่ไม่มีการติดตั้งป้ายบอกให้กับผู้ใช้ถนนเส้นดังกล่าวทราบ ทำให้ชาวบ้านที่ใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นประจำขับรถผ่านเข้าไป จนทำให้น้ำยางมะตอยกระเด็นเปื้อนรถได้รับความเสียหาย ต้องเสียเงินให้ทางร้านที่รับทำความสะอาดเป็นจำนวนเงินหลายบาท
ต่อมานายสมบัติ ชัดเจน ปลัดเทศบาลเมืองบางแม่นาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองช่าง สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี เป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ทางเจ้าหน้าที่กองช่าง ได้ชี้แจงว่า ทางผู้รับเหมามีการนำถังน้ำมัน 200 ลิตร และกรวยยางมาวางเป็นสัญลักษณ์บอกไว้ แต่ไม่ทราบว่าถังและกรวยมีใครนำออกไป เบื้องต้นได้มีการประสานไปทางผู้รับเหมาแล้วเขายินดีรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดรถ โดยให้ยื่นเอกสารเป็นสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนรถ รูปถ่ายรถที่ได้รับความเสียหาย และใบเสร็จค่าทำความสะอาดจากร้าน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นถ้าชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเกรงว่าไม่ได้รับความช่วยเหลือ ก็ให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ.บางแม่นาง เพื่อเป็นหลักฐาน
ทีมข่าวได้สอบถามนายพีรพล จ้อยจินดา อายุ 24 ปี เจ้าของรถจักรยานต์ ยามาฮ่า เอ๊กแม๊ก 300 ซีซี. ผู้เสียหาย รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า วันนั้นตนใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อที่จะกลับบ้าน ประกอบกับช่วงนั้นมีฝนตกลงมา ทำให้มองเห็นเส้นทางไม่ชัด แต่ยืนยันว่าไม่มีป้ายบอกเส้นทางแน่นอน เพราะปกติทั่วไปเวลาเขาทำทางจะมีการวางกรวยสลับให้ใช้เส้นทางบางช่วง ส่วนความเสียหายนั้นเนื่องจากรถของตนเป็นจักรยานยนต์ จึงมีค่าทำความสะอาดแพงกว่ารถยนต์ เนื่องจากต้องถอดชิ้นส่วนมาล้าง ส่วนของตนเสียเงินค่าทำความสะอาดจำนวน 3,500 บาท ด้านนายธีรภัทร์ เข็มทอง อายุ 35 ปี เจ้าของรถกระบะสีขาว ให้ข้อมูลว่า ตนใช้เส้นทางนี้เป็นประจำอยู่แล้ว วันนั้นขับผ่านเข้าไป มันมีฝนตกเมื่อวิางไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงหินกระเด็นโดนบังโคลนรถ ตอนแรกก็คืดว่าเป็นหินคลุกทั่วไปจึงวิ่งต่อไป จนเมื่อมาถึงบ้านจึงได้เห็นว่ารถมีคราบยางมะตอยติดอยู่เป็นจำนวนมา ล้างก็ไม่ออก ตนยืนยันว่าเส้นทางดังกล่าวไม่มีป้ายบอกและกรวยกั้น แต่ไม่ทราบว่ามีใครนำออกไปหรือเปล่า เบื้องต้นตนนำรถเข้าไปให้ร้านประเมินค่าล้างเป็นเงิน 3,500 บาท วันนี้จึงได้มายื่นเอกสารขอชดใช้ค่าเสียหาย
สาโรจน์ สว่างศรี จ. นนทบุรี
