เนื่องด้วย รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ได้ยื่นเสนอ “ชุดไทยพระราชนิยม” 8 แบบ ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ต่อ ยูเนสโก ( UNESCO ) เพื่อเป็นปีมหามงคล ครบ 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัวฯ จึงได้มี “โครงการส่งเสริมการดำเนินงานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” เพื่อเผยแพร่การประกาศขี้นทะเบียน “สงกรานต์ไทย” เป็นมรดกโลกไปแล้ว เช่นกันในต้นปี 2567 ถือเป็น Soft Power ที่แข็งแกร่งในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและแฟชั่น ชุดไทย ของประเทศไทย ดังนั้นในปี 2567 นี้
การจัดงาน สงกรานต์ไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ จะเป็นการเชื่อมโยงกับแผนของคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ ที่ต้องการสร้างเทศกาลของไทยให้เป็นเทศกาลระดับโลกเป็น 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลโลก (Festival Hub of Asia) โดยเริ่มจากการผลักดันให้งานมหาสงกรานต์ของไทย “World Water Festival – The Songkran Phenomenon” เป็นเทศกาลหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และจัดงานพร้อมกันทั้งประเทศ ผ่านเครือข่ายวัฒนธรรม 77 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขต ในกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความเชื่อมโยงเป็นธีม (Theme) การท่องเที่ยวในจังหวัดต่าง ๆ ของไทยตลอดเดือนเทศกาล แสดงถึงมิติทางสังคมไทย ซึ่งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น แต่ละชาติพันธุ์มีรายละเอียดของแนวปฏิบัติที่แตกต่างกัน เป็นคุณค่าที่ดึงดูดชาวต่างชาติให้หลงใหลใน “เสน่ห์”ของความเป็นไทย อีกทั้งยังเป็นการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวงานเทศกาล ไปสู่แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เส้นทางอารยธรรม สินค้าพื้นถิ่น อาหารพื้นถิ่น และศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่น ไปพร้อมกันด้วย
ในส่วนของ จังหวัดนนทบุรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายสุธี ทองแย้ม จึงได้ตอบรับแผนการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ระดับชาติ โดยได้รับความร่วมมือจาก อ.มุ่ย ชวิศ ชื่นเจริญ (อ.มุ่ย หูทิพย์) ประธานกรรมการ บริษัท สไมล์พิคเจอร์ และครูนุ่นนี่ วรินทร์ธาร จรัสสิริกุลชัย ประธานกรรการ บริษัท 365 วีไลฟ์ จำกัด และผู้ก่อตั้ง มูเตลูยี่ บ้านสายมูไฮเทค เป็นผู้ดำเนินงานหลักในการจัดงานในครั้งนี้ โดยได้รับความอนุเคราะห์ จากเจ้าอาวาสวัดบัวขวัญ พระอารามหลวง พระเทพวชิรนันทาภรณ์ ให้ใช้สถานที่วัดบัวขวัญในการจัดกิจกรรมต่างๆ เป็นศูนย์รวมของชาวนนทบุรี
1ในไฮลท์ของงาน คือ การแสดงเดินแบบของนางแบบกิตติมศักดิ์ อย่างอ่อนช้อยงดงาม สะกดทุกสายตาในชุดไทยพระราชนิยม สมบัติของชาติทั้ง8แบบ เครื่องนุ่งห่มที่มีมามากกว่า 1,400 ปี ตั้งแต่สมัยทวารวดี จนถึงยุคอยุธยาประกอบด้วย ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยอมรินทร์ ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยดุสิต ชุดไทยจักรี ชุดไทยจักรพรรดิ ชุดไทยศิวาลัย ชุดไทยเป็นชุดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หาชาติใดเสมอเหมือน การออกแบบและการตัดเย็บที่ประณีต เป็นการพัฒนามาจากการนุ่งห่มแบบไทย สร้างสรรค์ ขึ้นโดยใช้ผ้าทอที่เป็นงานฝีมือของช่างไทยในท้องถิ่นต่างๆทั่วทุกภูมิภาค มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว สำหรับสตรีมี 8 แบบ หรือเป็นที่รู้จักในนามชุดไทยพระราชนิยม สำหรับในส่วนของบุรุษมี 3 แบบ โดยคนไทยนิยมสวมใส่ในโอกาสสำคัญของชีวิต โดยเป็นแนวปฏิบัติทางสังคม ที่แสดงออกทางวัฒนธรรมร่วมของชาวไทยและต่างประเทศ ทำให้เกิดความภาคภูมิใจ สร้างรายได้ให้แก่ชาติ และช่วยดำรงไว้ซึ่งงานฝีมือ ดังนั้นชุดไทยจึงมีคุณค่าต่อสังคม บทบาททางวัฒนธรรม และมิติทางคุณภาพชีวิต ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ ครูนุ่นนี่ วรินทร์ธาร บ้านสายมูไฮเทค มูเตลูยี่ ได้นำงานพุทธศิลป์ “พระรวิชัยพิฆเนศ” ซึ่งได้ขึ้นทูลเกล้าถวาย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพฯ และได้มีการบวงสรวงรับความศักดิ์สิทธิ์ กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อต้นปีที่ผ่าน โดยความสวยงามในงานศิลปะทางพุทธศิลป์ผสมผสานความสวยงานและความมงคลออกมาเป็นคอลเลคชั่น จี้มงคล “พระรวิชัยพิฆเนศ” เปิดตัวครั้งแรกในงาน ท่านที่สนใจ สามารถ ติดต่อสั่งจองได้ที่ Line: @mutelugy
ติดต่อลงโฆษณา โทร.0949608555
