สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม.,พ.ต.อ.สถิตย์ วิชัยกุล ผกก.ตม.พระนครศรีอยุธยา จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จ.พระนครศรีอยุธยา สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ
จนกระทั่งวันที่( 8 ม.ค.67 ) เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา) นำโดย ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร,ร.ต.อ.เชาวลิต สีดำ รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.,ร.ต.อ.ประธาน จตุพันธ์,ร.ต.อ.ธีระยุทธ วันโสภา รอง สว.(ป) ส.ทล.1 กก.1บก.ทล.,ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง,ด.ต.วิชัย ตามสมัย,ด.ต.ยศภัทร อินต๊ะ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1บก.ทล. ได้สำรวจเส้นทาง โดยพบรถยนต์กระบะ(ตู้ทึบ) ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข บม-176 กำแพงเพชร ขับขี่ผ่านมาโดยใช้ความเร็วสูงและเปลี่ยนช่องทางกะทันหันซ้ายทีขวาที และมีน้ำหนักที่รถยนต์มากว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสัญญาณไฟพร้อมเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่เมื่อรถคันดังกล่าวเร่งความเร็วขับหลบหนีตำรวจได้ขับรถติดตามมา จนมาถึง บริเวณ กม.34-35 (ขาเข้า) ทล.32 ถนนสายเอเชีย ต.บ้านลี่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ
จากการสอบถามเบื้องต้นชื่อ นายพิสันต์ เพ็งลำ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 ถนนประชาหรรษา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะ(ตู้ทึบ) ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข บม-176 กำแพงเพชร โดยมีผู้ที่โดยสารจำนวน 23 คน ซึ่งเป็นคนต่างด้าวชาวเมียนมา โดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญตัวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สภ.บางปะหัน ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา พบว่าผู้ที่โดยสารมากับรถคันดังกล่าวเป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
จากการสอบถาม นายพิสันต์ เพ็งลำ คนขับให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 7 ม.ค.67 เวลาประมาณฯ ตนได้รับการติดต่อ นายเด่น ให้ไปรับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจำนวน 15 คน โดยให้ตนไปรอที่ ร้านสะดวกซื้อที่ตลาดนาโบสถ์ ต่อมานายหนุ่มหรือนายวศิน เพ็งลำ ส่งข้อความทางไลน์ มาให้ตน หลังจากนั้น ตนได้ติดต่อกับคนที่มาส่งคนต่างด้าว โดยใช้รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นรีโว่ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยตนได้ขับขี่ตามไปรับคนต่างด้าวในไร่มันสำปะหลัง ใน ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก ไปส่งที่ จะเอ๊รีสอร์ท ต.บ้านโคน อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โดยคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 8 คน ที่เหลือ นายวศิน เพ็งลำ ซึ่งเป็นพี่ชายของตน เป็นคนรับมา หลังจากนั้นวันที่ 8 ม.ค.67 เวลาประมาณ 10.00 น.ตนจึงรับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาจำนวน 23 คน จากรีสอร์ท บรรทุกขึ้นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ อีซุซุ สีเทา บม-176 กำแพงเพชร เพื่อนำไปส่งที่ปลายทาง บริเวณ กม.6 ถนนสายเอเชีย ทล.32 อ.บางปะอิน จ..พระนครศรีอยุธยา โดย นายวศิน เพ็งลำ จะเป็นคนส่งเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งเป็นคนที่จะมารับคนต่างด้าวต่อจากตนมาทางไลน์ ชื่อ หนุ่ม ให้ตน ได้รับค่าจ้างในการขนคนต่างด้าว ครั้งที่ 1 รับเป็นเงินสดจำนวน 4,000 บาท เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 66 ครั้งที่ 2 รับเป็นเงินโอน โดยนายพนาคุณ เกิดพันธุ์ ใช้บัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา ชื่อบัญชี นายพนาคุณ เกิดพันธุ์ โดยโอนเงินไปยัง บัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายพิสันต์ เพ็งลำ จำนวน 4,000 บาท และครั้งที่ 3 ยังไม่ได้รับค่าจ้าง โดยจะรับหลังจากที่ทำงานเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งตนขอยืนยัน นายเด่น หรือ นายพนาคุณ เกิดพันธุ์ และ นายหนุ่ม หรือ นายวศิน เพ็งลำ ได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้ง 23 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยตนได้กระทำแบบนี้มาแล้วจำนวน 3 ครั้ง
สอบถามต่างด้าว ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 12,000 – 25,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางปะหัน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
